แนวคิดในการแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก เมื่อประมาณปี ๒๕๔๘

on วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

 

 

> เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาทั่วประเทศและสมัชชาคนจนบนสันเขื่อนราษีไศล.

 

    ตามที่ผมได้นำเสนอไปแล้วนั้น ผมขอนำข้อความที่ผมได้โพสท์ลงในเว็บไซด์ผู้จัดการเมื่อประมาณ ปี ๒๕๔๘ ซึ่งเกิด ศึกแย่งน้ำกันระหว่าง บริษัทขายน้ำเอกชนกับกรมที่มีหน้าที่ดูแลน้ำ และพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาในภาคตะวันออก.

    อนึ่งศึดแย่งน้ำนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ในพื้นที่อำเภอเสิงสาง และอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมาครับ ระหว่าง การประปาโคราช(หรือบริษัทขายน้ำ)กรมที่ดูแลเขื่อน ลำแซะ และพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาในพื้นที่ของทั้ง ๒ อำเภอดังกล่าว ทั้งนี้เพราะ ปริมาณน้ำในเขื่อน ลำแซะนั้นแม้จะใช้สำหรับการเกศจนกนนมเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่พอใช้อยู่แล้ว ยังจะมาถูกแย่งไปผลิตน้ำประปาให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา และเขตอุตสาหกรรม รันารี อีกด้วยครับ เหตุการณ์จะเหมือนที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกเมื่อปี ๒๕๔๘ และเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอีกที่อำเภอเสิงสาง อำเภอครบุรั จังหวัดนครราชสีมาในปีที่การก่อสร้างโรงกรองน้ำแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสน็จประมาณปี ๒๕๕๔ ครับ พี่น้องคอยดูนะครับ ผมยังไม่เห็นมีไคร?สนใจแก้ไข/หรือทำการป้องกันเลยครับ.ลองอ่านแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำในพืนที่ภาคตะวันออกดูนะครับ.

 

 

>Mr. Suriyamas,

>I read your idea about water crisis solution, posted on www.manager.co.th

><http://www.manager.co.th/>  and would like to know more in details.

>การแก้ปัญหาภัยแล้ง ของจังหวัดทางภาคตะวันออกชายฝั่งทะเล จาก ชลบุรี พัทยา

>ระยอง โดยเฉพาะที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม

>ต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมาก/ปี ซึ่งจากนี้ไปจะเกิดภัยแล้งถี่ขึ้น

>ดังจะเห็นได้จากปริมาณน้ำที่เก็บกักได้ในแต่ละปีค่อยๆลดลงตามลำดับ เช่น ปี

>2547 อ่างและเขื่อนต่างๆในภาคตะวันออกเก็บน้ำได้เพียง.-

>1.) อ่างบางพระ ปกติเก็บกักได้ 110ปี2547เก็บกักได้

>48ปัจจุบัน23ก.ค.2548เก็บกักได้เพียง 17 หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม.

>2.)

>อ่างหนองปลาไหล.ปกติเก็บกักได้164ปี2547เก็บกักได้94ปัจจุบัน23ก.ค.เก็บกักได้เพียง16

>หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม.

>3.) เขื่อนคลองสียัดปกติเก็บกักได้325ปี2547เก็บกักได้142ปัจจุบันถึง 23 ก.ค.

>2548เก็บกักได้เพียง40 หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม

>4.) รวมปกติเก็บกักได้599ปี2547รวมเก็บกักได้284 ปัจจุบันรวมเก็บกักได้เพียง

>73 หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม.หรือเท่ากับ 12%ของความสามารถอ่างเก็บกักได้ปกติ

>สถาณการณ์น้ำในภาคตะวันออกเข้าขั้นวิกฤตแล้วครับ.แหล่งน้ำที่จะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้คือแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำหริ

>"เขื่อนคลองบ้านท่าด่านครับ" ซึ่งเพิ่งเริ่มเก็บกักน้ำได้ในปี 2548นี้ครับ

>ปริมาณเก็บกักปกติ 224 ล้าน ลบ.ม. ปี 2547 ยังไม่มีการบันทึกข้อมูล

>ปัจจุบันถึง 23 ก.ค. 2548 เก็บกักได้แล้ว 39 ล้าน

>ลบ.ม.เพราะฉะนั้นแหล่งน้ำหลัก" ต้อง"สร้างโรงกรองน้ำที่

>บริเวณเขื่อนคลองบ้านท่าด่าน จังหวัดนครนายก แล้วส่งน้ำไปแจกจ่ายให้ 3

>จังหวัดภาคตะวันออก การประปาต่างๆจะเป็นเพียงสถานีจ่ายน้ำเท่านั้น

>โครงการยักแค่ไหนก็ต้องทำครับ

>เพราะว่าการแก้ปัญหาในปัจจุบันเป็นการแก้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

>เช่นการผันน้ำจากบริเวณใกล้เคียงมาใช้ก็เกิดปัญหาแล้ว

>เพราะเจ้าของพี้นที่เขาก็ขาดแคลนน้ำ

>การผันน้ำจากแม่น้ำบางประกงก็มีปัญหาการปิดเขื่อนทำให้ตลิ่งท้ายน้ำพังทลายลง

>และน้ำเค็มจะทลักเข้าไปในเขตเรือกสวนไร่นาของประชาชน

>และการเจาะน้ำบาดาลปีนี้พอมีน้ำ แต่ปีหน้าน้ำจะน้อยลงครับ.ระยะทางประมาณ 140

>กม พร้อมโรงกรองน่าจะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จภายใน 30 เดือน

>โดยในปีนี้จะได้น้ำฝน

>และรีบขอพระราชทานฝนหลวงในช่วงหน้าฝนที่บรรยากาศมีความชื้นมากนี้ทำฝนเทียมเพื่อให้ได้น้ำดิบมาประทังไปก่อน

>รวมกับน้ำฝนน่าจะพอถูไถไปได้ถึงปลายฝนหน้าครับ

>และใช้วิธีเดิมคือขอพระราชทานฝนหลวงอีกรอบก้จะสามารถยืดอายุไปได้จนโครงการก่อสร้างโรงกรองใหม่ที่เขื่อนคลองบ้านท่าด่านแล้วเสร็จ

>(หมายเหตู. ถ้าไม่รีบดำเนินการ ท่าน รัฐมนตรี นั่นแหละจะเสร็จครับ.)

>อนึ่งที่ต้องก่อสร้างโรงกรองที่เขื่อนคลองบ้านท่าด่านก็เพราะว่า

>ระดับเก็บกักน้ำสูงสุดของเขื่อนคลองบ้านท่าด่านจะอยู่ที่ประมาณ + 120 M.S.L.

>ถังจ่ายก็จะไม่ตอ้งก่อสร้างสูง หรือต้องใช้แรงดัน. จะสามารถจ่ายน้ำให้ ทั้ง 3

>จังหวัดในภาคตะวันออกได้โดยใช้ระบบแรงโน้มถ่วงครับ. หมายเหตูระบบ

>บริษัทจัดการน้ำบริโภคล้มเหลวหากรัฐบาลไม่แก้ไขจะเจอปัญหาซ้ำซาก

>การประปาส่วนภูมิภาคต้องทำเอง

>ข้าราชการที่ดียังมีอีกมากครับผมเชื่อมั่นพวกเขาจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ.กราบเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยองฯ

>ระดับเก็บกักน้ำปกติของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในบริเวณภาคตะวันออกจะอยู่ที่ประมาณ

>40, +50, +67. M.S.L. เท่านั้น

>หากต้องการน้ำดิบมาเติมอางเก็ยน้ำต่างๆก็จะสามารถใช้ท่อล่งน้ำร่วมกันได้ถ้าจำเป็นครับ.ต้องกล้านำเสนอท่าน

>รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์

>หรือท่านนายกก็ได้ผมเชื่อครับว่าท่านจะรับฟัง.

>และที่สำคัญปัญหาการแย่งน้ำก็จะไม่มีครับ

 

       พี่น้องครับผมขออนุญาติทำนายเอาไว้เลยนะครับ ญ วันนี้วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๒ ในอีกไม่ถึง ๒ ปีข้างหน้าจะเกิดศึกแย่งน้ำขึ้นอย่างแนนอน และรัฐบาลจะใช้วิธีการแก้ไขแบบการแก้ผ้าเอาหน้ารอดครับคือ จะกลับไปใช้น้ำดิบจากเขื่อน ลำตะคองตามเดิม (และยอมสูญเสียเงินงบประมาณค่าก้อสร้างโรงกรองแห่งไหม่ ที่ ตำบลด่านเกวียน ไปถึง ๓,๐๐๐ ล้าน บาทเศษ ) แต่ปัญหาก็จะไม่จบครับเพราะปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน ลำตะคองมีไม่พอเพียงและยังถูกสนามกล๊อฟแย่งไปใช้อีกด้วยครับ ผมเคนเตือนความจำแก่ผู้ที่รับผิดชอบโดยน้อมนำโครงการพระราชดำริ คืด โครงการก่อสร้างฝายกั้นน้ำที่ น้ำตกเหวนรกและขุดอุโทงผันน้ำมาลง ต้นน้ำลำตะคองคือที่ น้ำตกเหวสุวัจครับ เมื่อครั้งโคราชแล้งหนักเมื่อประมาณปลายปี ๒๕๔๘ เคยมีรัฐมนตรีคิดที่จะผันน้ำมาเติมให้เขื่อน ลำตะคองแต่คิดจะสูบน้ำขึ้ยเขาจากโครงการโขง ชีมูล ไม่เว้นแม้ ๒ - ๓ รัฐบาลที่ผ่านมาครับ. เวลาผ่านไปร่วมเกือบจะ ๕ ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไร?เกิดขึ้นเลยครับ.

 

 

             ด้วยจิตรคารวะ

 

       ปนะชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗



With Windows Live, you can organize, edit, and share your photos. Click here.

การแก้ไขปัญหาน้ำในภาคตะวันออก.

กลาง-ตะวันออก-ใต้มีฝนตกหนักระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2552 06:40 น.
       กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
       
        ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดระนอง ชุมพร พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูลมีฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ อาจมี น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล
       และที่ลุ่มระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวในระยะ1-2วันนี้
       
        พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
       
        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
       
        ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดลพบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรีและราชบุรีลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
       
        ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง สระแก้ว จันทบุรี และตราดลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูลลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
       
        กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาทั่วประเทศและสมัชชาคนจนบนสันเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
ผมได้อ่านบทความข้างต้นแล้ว สำหรับผมนั้นไม่ได้เป็นห้วงพื้นที่ในภาคตะวันออกเลยครับ เพราะมันเป็นธรรมชาติที่ในแต่ละปีก็จะมีพายุดีเพรสชั่นเป็นประจำอยู่แล้ว แลผมเห็นว่าพื้นที่ในภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรีนั้นแห้งแล้งอยู่แล้วทั้งนี้ก็เนื่องมาจากป่าถูกทำลายไปมากแล้ว แล้วยังรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นเสือตัวที่ ๕ นั่นเอง จึงได้เกิดการแย่งน้ำกันขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๘ ถึงกับมาออกทีวีในรายการถึงลูกถึงคน โดยมีฝ่ายบริษัทเอกชนผลิตน้ำขายกับส่วนราชการที่ดูแลเรื่องน้ำฝ่ายหนึ่ง กับเกษตรกรผู้ใช้น้ำจากพื้นที่ภาคตะวันออก(อย่างโดดเดี่ยว)อีกฝ่ายหนึ่ง.และเหตุการแย่งน้ำครั้งนั้นถึงกับมีอธิบดีกรมหนึ่งลาออกเพราะเจาะน้ำบาดาลได้ไม่ทันใจรัฐบาลในสมัยนั้น.และการแก้ไขในครังนั้นก็คือการไปแย่งน้ำจากจังหวัดระยองคือจากแม่น้ำประแสร์และไปสูบน้ำจากเขื่อนบางปะกง จนทำให้น้ำทะเลไหลย้อนขึ้นไปทำความเสียหายให้แก่ไร่นาของประชาชนเป็นจำนวนมาก และผลจากการปิดเขื่อนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำบางปะกงลดต่ำลงทำให้เกิดตลิ่งพังทะลายลงอีกด้วย.
 
ผมเคยเสนอแนะผ่านลูกชาย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้ลองนำเสนอโครงการก่อสร้างโรงกรองน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายกแล้วส่งมาใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออกทั้ง ชลบุรี เมืองพัทยา จังหวัดระยอง โดยการวางท่อส่งน้ำมาเชื่อมต่อกับที่ส่งน้ำจากเขื่อนบางปะกง ก็จะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้อย่างยีงยืนอีกด้วย ทั้งนี้ ปริมาณน้ำสูงสุดในเขื่อนขุนด่านปราการชลนั้น มีปริมาณ ๒๒๔ ล้าน ลบ. ม. แต่มีปร้มาณน้ำไหลลงเขื่อนเกินอยู่ถึง ๑๒๐ - ๑๕๐ ล้าน ลบ.ม.อีกด้วย และระดับของพื้นที่ยังสูงกว่าระดับบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกอยู่ระหว่าง ๓๐ - ๔๐ เมตร (ร.ท.ก.) เราก็สามารถปส่อย(ส่ง)น้ำซึ่งกรองเรียบร้อยแล้วมายังพื้นที่ภาคตะวันออกโดยไม่ต้องใช้พลังงานเลยครับ.และอีกประการหนึ่งหากปีไดเกิดฝนแล้งไม่มีน้ำเพื่อการเกษตรกรรม เรายังสามารถใช้ท่อส่งน้ำนั้นมาใช้ส่งน้ำดิบไปเติให้เขื่อนต่างๆในภาคตะวัยออกได้อีกด้วยครับ เพราะได้มีการเชื่อมโยงท่อระหว่างเขื่อน/อ่างเอาไว้แล้วครับ.เป็นที่น่าเสียดาย เขาคงไม่กล้านำเสนอข้าราชการซึ่งเป็นพ่อของเขาเอง เพราะเขาถามผมกลับมาว่า ผมมีความรู้อะไร? และได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้และผลกระทบแล้วหรือยัง โถพ่อคุณ มิน่าประเทศไทยของเราถึงไม่เจรฺญเหมือนประเทศอื่นเขา.
 
ด้วยจิตรคารวะ
 
ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗

 
 


Hotmail® is up to 70% faster. Now good news travels really fast. Try it now.

แปลงต้นแบบ เกษตร "ทฤษฎีใหม่" ตามแนวพระราชดำริแปลงแรกครับ.

อ่างเก็บน้ำห้วยหินขาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ช่วยพื้นที่ขาดแคลนน้ำวัดมงคลชัยพัฒนา จ.สระบุรี

 

                โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นโครงการที่กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานพระราดำริไว้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2536 ให้กรมชลประทานเร่งพิจารณาโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาว พร้อมระบบท่อส่งน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ช่วยเหลือกิจกรรมของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพื้นที่เพาะปลูกท้ายอ่างฯในรูปแบบ "โครงการทฤษฎีใหม่"

                กรมชลประทาน ได้สนองพระราชดำริ โดยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวฯ ขนาดความจุ 1.10 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการใช้น้ำในเขต ต.เขาดินพัฒนา และบริเวณใกล้เคียงอีก 4 หมู่บ้าน ได้อย่างเพียงพอตลอดปี นอกจากนี้ ยังจะเป็นแหล่งน้ำช่วยเหลือกิจกรรมของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนาฯ และสนับสนุนพื้นที่การเกษตรของราษฎรที่มีการจัดรูปแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ในฤดูฝนได้ประมาณ 2,500 ไร่และปลูกพืชไร่ในฤดูแล้งได้ประมาณ 500 ไร่ เป็นการช่วยเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรและเพิ่มรายได้ให้แก่ราษฎรในเขตโครงการฯ อีกทั้ง ยังได้ประโยชน์ทางด้านการประมง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

                สำหรับพื้นที่ส่งน้ำของโครงการฯ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โครงการขยายผลทฤษฎีใหม่พระราชทาน ซึ่งได้ขยายผลเข้าสู่พื้นที่ของเกษตรกรด้านท้ายอ่างฯ และมีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก โดยการขุดสระเก็บน้ำประจำไร่นา พร้อมทั้งวางระบบท่อส่งน้ำให้ในเขตต.เขาดินพัฒนา และต.ห้วยบางบางส่วน

                ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการขุดสระเก็บน้ำประจำไร่นาตามแนวทฤษฎีใหม่ จำนวน 206 แห่ง นั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการขุดสระเก็บน้ำเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว จำนวน 104 แห่ง ส่วนสระเก็บน้ำที่เหลืออีก 102 แห่ง อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระบุรี เพื่อสรุปบัญชีรายชื่อของเกษตรกรที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการต่อไปแล้ว

                อนึ่ง กรมชลประทาน ได้ดำเนินการส่งน้ำให้กับเกษตรกรในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวฯ ทั้งแต่เดือนธันวาคม 2540 เป็นต้นมา ทำให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถปลูกพืชไร่ พืชผัก และไม้ยืนต้น เช่น ข้าวโพดหวาน ทานตะวัน ถั่ว ชะอม ใบโหรพา ผักคะน้า มะม่วง ขนุน และมะพร้าว เป็นต้น ได้อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ที่ได้ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาว ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถพัฒนาการบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอและยั่งยืนตลอดไป

*********************

5  สิงหาคม  2552

 
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนสันเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
       บทความข้างต้นผมได้นำมาจากเว็บ กรมชลประทาน
 
http://www.kromchol.com/ เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๒ นี้เอง
 
ครับ.
 
โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
 
และพื้นที่เพาะปลูกท้ายอ่างฯในรูปแบบ "โครงการทฤษฎีใหม่"
 
        โครงการแปลง "ทฤษฎีใหม่" ต้นแบบเป็นแห่งแรกซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงส่งคนขึ้นไปจัดซื้อที่ดิน จำนวน ๑๕ ไร่เศษ
และเมื่อคุณป้าท่านหนึ่งได้ทราบว่าเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จึงได้บริจากที่ดินเพิ่มเติมให้แก่ มูลนิธิชัยพัฒนา อีกจำนวน ๙ ไร่เศษ นวมเป็น พื้นที่ ๒๔ ไร่เศษ พี่น้องอ่านดูได้จาก หนังสือ "ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับน้ำ
เพื่อการเกษตร"ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีรายละเอียดตรงนี้ครับ
 
         โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อปี ๒๕๓๕ กรมชลประทานได้สนองพระราชดำริ ได้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาว ความจุ ๑.๑๐ ล้าน ลบ.ม.แล้วเสร็จเมื่อปี ๒๕๔๐ ซึ่งหมายความว่า พอดีกับผลการทดลองแปลง "ทฤษฎีใหม่"ได้ทราบผลสำเหร็จพอดีครับ.
 
          จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้ครับคือ เกษตรกร/ชาวนาในพื้นที่นี้ยากจนเพราะพื้นที่แห้งแล้ง โครงการจึงจำเป็นต้องช่วยขุดสระเก็บกักน้ำให้เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๒๐๖ แปลง ถึง ณ วันนี้ขุดแล้วเสร็จไปแล้วเพียง ๑๐๔ แปลง
ยังเหลืออยู่อีกเป็นจำนวน ๑๐๒ แปลงครับ จากปี ๒๕๔๐ - ปี ๒๕๕๒ เป็นเวลาถึง ๑๒ ปีมาแล้ว
 
           ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการขุดสระเก็บน้ำประจำไร่นาตามแนวทฤษฎีใหม่ จำนวน 206 แห่ง นั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการขุดสระเก็บน้ำเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว จำนวน 104 แห่ง ส่วนสระเก็บน้ำที่เหลืออีก 102 แห่ง อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระบุรี เพื่อสรุปบัญชีรายชื่อของเกษตรกรที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการต่อไปแล้ว
ในส่วนนี้ผมคิดว่า น่าที่จะใชโครงการไทยเข้มแข็งเข้าไปดำเนินการนะครับ จะได้แล้วเสร็จเสียทีครับ และยังเป็นการกระตุ้น เศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืนได้อีกด้วยครับ.
 
                     ด้วยจิตรคารวะ
 
             ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗ 


With Windows Live, you can organize, edit, and share your photos. Click here.

FW: ๘๐ ปี..ของพ่อผู้ให้ผืนดินสร้างแหล่งทำกิน..อย่างมีความสุขที่พอเพียง. สารประกอบต่างๆที่ให้ธาตุอาหารรองและใช้แก้ดินเปรี้ยวได้ครับ.

on วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552


 

From: msuriyamas@hotmail.com
To: msuriyamas.water@blogspot.com
Subject: ๘๐ ปี..ของพ่อผู้ให้ผืนดินสร้างแหล่งทำกิน..อย่างมีความสุขที่พอเพียง. สารประกอบต่างๆที่ให้ธาตุอาหารรองและใช้แก้ดินเปรี้ยวได้ครับ.
Date: Wed, 26 Aug 2009 18:10:06 -0800

 
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนสันเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
             พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
 
ในทุกๆด้านโดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกิน เพราะยังมีราษฎรอยู่เป็นจำนวนมากที่ขาดปัจจัยนี้.
 
             พระองค์พระราชทานที่ดินทรัพย์สืนส่วนพระมหากษัตริย์ และพระราชทานค่าทดแทนที่ดิน
 
เพื่อนำมาจัดตั้งกองทุนสหกรณ์ โดยให้ผู้เช่าที่ดินอยู่เดิมได้ทำกินในที่ดินผืนนั้นต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
 
ตราบที่ยังยึดถืออาชีพเกษตรกรรมอยู่...อันเป็นแนวทางในการปฏิบัติในการปฏิรูปที่ดินเพื่อก่เกษตรกรรม.
 
             ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๘ จึงมีพระราชบัญญัติ การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม โดยมอบ
 
หมายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อก่เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำไปดำเนินการ  ที่ดินพระราชทานมีพื้นที่
 
ถึง๔๔,๓๕๐ ไน่ ๐ งาน ๕๕.๔๖ ตารางวา จำนวน ๒๕๓ โฉนด อยู่ในท้องที่ ๕ จังหวัด คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา
 
จังหวัดนครนายก จังหวัดนครปฐม จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา "อันเป็นจุดเริ่มต้น การ
 
ปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย"
 
               อนึ่งที่ดินในพื้นที่ จังหวัดนครนายก โดยเฉพาะในอำเภอองค์รักษ์ และพื้นที่ในบางส่วน
 
ของจังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่บางสาวนของจังหวัดปทุมธานีมีดินเปรี้ยวจัด จึงทำให้การทำนาได้
 
ผลผลิตน้อย จนทำให้รัฐต้องยกภาษีที่ดินให้เกษตรกร/ชาวนา จนทำให้ได้ชือว่า จังหวัดนครนายก
 
คือยกภาษีที่ดินทำนาให้.
 
               พร้อมนี้ผมได้นำเสนอตาราง สารประกอบที่ให้ธาตุอาหารองแก่พืชและเป็นสารประกอบ
 
อ๊อกไซด์/เมื่อถูกน้ำก็จะแตกตัวเป็น ไฮดร๊อกไซด์ซึ่งมีฤทธืเป็นด้าง เกษตรกรกรจึงสามารถใช้เป็น
 
สารใส่ในไร่นาที่มีดินเปรี้ยว เพื่อแก้ดินเปรี้ยวได้ครับ ส่วนปริมาณการใช้นั้นไม่ควรเกิน ๒๐๐ กก./ไร่
 
นะครับ แทนที่จะใช้ปูนมาลย์ (ดินมาลย์) เกษตรกรต้องใช้เป็นปริมาณถึง ๑.๕ - ๒.๕ ตัน/ไร่ ใส่ปีเว้น
 
ไป ๓ ปี ซึ่งต้องใช้แรงงานมาก (แม้ว่า เกษตรกร/ชาวนาจะได้รับแจกฟรีจากกรมพัฒนาที่ดินก็ตาม)
 
แต่เกษตรกร/ชาวนาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการไปขนปูนมาลย์มาจากสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด จึง
 
ทำให้เกษตรกรไม่มีเงินพอที่จะไปขนมาใส่นาของตนเองได้ (รัฐบริการไม่ครบวงจร) ผมจึงแนะนำให้
 
หันมาช่วยตนเองโดยใช้ปูนซีเมนต์แทนปูนมาลย์ครับ ใช้ไร่ละ ๑๕๐ - ๒๕๐ กก.ผลผลิตที่ได้เพิ่มขึ้น
 
นั้นคุ้มค่าครับ.  
 
                         ด้วยจิตรคารวะ
 
                ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
 
   


Hotmail® is up to 70% faster. Now good news travels really fast. Try it now.

Windows Live: Keep your friends up to date with what you do online. Find out more.

ฐานความรู้และแนวคิดเพื่อชีวิตสำหรับชุมชน

on วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ฐานความรู้และแนวคิดเพื่อชีวิตสำหรับชุมชน
ครูวุฒิ
P ครูวุฒิ
โรงเรียนบ้านโคกเพชร
อีเมลติดต่อ
 
อ่าน: 94
นาแบบนี้ มีของแถมเพียบ

จากการที่โรงเรียนบ้านโคกเพชร

ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น

ด้วยการจัดหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นองค์ความรู้ที่จะช่วยให้เด็กๆมีทักษะทางด้านการคิด

ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงในสื่งที่มีผลต่ออนาคตและความมั่นคงของครอบครัว

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ.....

กิจกรรมการทำนาอินทรีย์ด้วยต้นทุนต่ำในรูปแบบต่างๆ

ทั้งนี้ เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อดีข้อด้อย แนวทางที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มเวลา

อันจะนำไปสู่กระบวนการผลิตอาหารที่ปลอดภัย ให้ผลผลิตสูง ต้นทุนต่ำ มีรายได้ที่พอเพียงและมั่นคง

 

 ในเบื้องต้นของการทำนาในปีการศึกษา 2552 เราพบว่า...

นาแบบนี้ มีของแถมจากเทวดา เพียบ!

(แม้จะเป็นนาแปลงเล็กๆในที่สูงๆ แต่ระบบนิเวศน์ในแปลงนาดีขึ้นอย่างชัดเจน)

เช่น ลูกกบ , ลูกปลา , อี่งอ่าง , ฯลฯ

แถมมีผู้ช่วยทำหน้าที่ปรับปรุงบำรุงดินด้วยปู๋ยธรรมชาติโดยไม่ต้องว่าจ้างอย่าง

"ไส้เดือนดินและปลวก" อีกต่างหาก

(ลูกกบในแปลงนามีจำนวนมากกว่าที่นาทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด)

 

....นั่นคงเป็นเพราะ....

ที่นาของเรามีป่าให้เขาอยู่ มีรูให้เขาหลบ มีคาคบให้เขาซ่อน ไม่ต้องเดือดร้อนเมื่อมีภัยมา

...นั่นเอง...

สัตว์เล็กสัตว์น้อยเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทั้งสิ้น

นี่เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า การทำนาแบบ "นาป่า นาอิงธรรมชาติ"

 น่าจะดีกว่าการทำนาแบบล้างผลาญระบบนิเวศน์ในธรรมชาติแบบนี้

...แน่นอน...

และครูวุฒิอยากขอถามทิ้งท้ายบันทึกนี้นิดหนึ่งว่า

นาแบบนี้ ทำแล้วใครรวย? ช่วยบอกทีครับ

เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนสันเขื่อนราษีไศล

ไคร?ที่สนใจกรุณาเข้าไปชมได้ที่

 

http://gotoknow.org/blog/khokpet/287162
 
        พวกเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับแปลงนา ในแปลงเกษตร "ทฤษฎีใหม่" ได้อย่างลงตัวเลยนะครับ.
 
                ด้วยจิตรคารวะ
 
        ประชุม สุริยามาศ. วย.๗๗๗
 
 


Windows Live: Keep your friends up to date with what you do online. Find out more.

คิดเองทำเอง เลี้ยงกบในขวดพลาสติก.

เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
            คนโคราชบ้านเดียวกับผม เขาเลี้ยงกบใกลาแล้วพัฒนามาเป็น
 
เลี้ยงกบในขวดพลาสติก น้ำหนักดี สอาดและปลอดภัย แลธโตไวอีกด้วยครับ.
 
                          ด้วยจิตรคารวะ
 
                  ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗


Hotmail® is up to 70% faster. Now good news travels really fast. Try it now.

กบน้อยร้อยล้าน ด้วยสองมือน้อย.

เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
               ผมนำการเลี้ยงกบ ไอเดียเจ๋ง ของโรงเรียนประชาสามัคคีสร้างรายได้สู่นักเรียน
 
น่าสนใจนะครับ ถ้าจะให้หลานๆได้ทดลองเลี้ยงกัน น่าจะใช้บ่อพลาสติกเพื่อลดค่าใช้จ่ายลงนะ
 
ครับ ถ้าหลานๆเลี้ยงกบได้ ก็น่าที่จะเลี้ยงหมูซักคนละ ๒ ตัวได้ พี่น้องสองคนช่วยกันเลี้ยงครั้งละ
 
๔ ต้ว อาหารใช้ปลายข้าว/รำข้าวต้มกับต้นกล้วยหั่น/หรือผักตบชวาก็ได้เพื่อลดรายจ่ายค่าอาหาร
 
เลี้ยงนานกว่าคนมีต้งหน่อยเขาเลี้ยงด้วยหัวอาหาร ใช้เวลา ๔ เดือน เราเลี้ยงแบบพอเพียงด้วย
 
อาหารพื้นบ้านราคาถูกใช้เวลา ๕ เดือน ขายได้ราคาพอๆกัน แต่เราจะเหลือเงินมากกว่า พี่ช่วย
 
น้องถ้าเลี้ยงบนบ่อปลานิลได้ก็จะดีได้ผลสองต่อ. เลร้ยงปีละ ๒ รอบเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษา
 
ได้ด้วยตยเองเลยครับ. คุณพ่อคุณแม่ช่วยซื้อลูกหมูพันธ์ให้ด้วยนะครับ.
 
                ด้วยจิตรคารวะ
 
          ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗


Windows Live: Keep your friends up to date with what you do online. Find out more.

รถเก๋งไดฮัดสุ ลากหางพ่วง ๔ ล้อเพลานอก บรรทุกข้าวสารจาก จ.นครราชสีมา ไปขายถึง กรุงเทพมหานครฯ

 
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
     ผมขอนำเสนอข่าวบ้านใกล้เรือนเคียง เช่นประเทศอินเดีย และประเทศปากีสถาน
 
เจอวิกฤติราคาน้ำตาลอันนื่องมาจากฝนแล้ง ทำให้ผลผลิตอ้อยเสียหาย และราคาน้ำตาล
 
ถีบตัวขึ้นถึง ๒ เท่า แต่พี่น้องครับ อย่าไปตกใจและไปตื่นเต้นกับราคาที่สูงขึ้นนะครับ
 
เพราะราคาน้ำตาลจากอินเดียและปากีสถานนั้น กว่าจะมาถึงมือเกษตรไทยผู้ปลูกอ้อย
 
และทอนมาเป็นราคาอ้อย ก็จะไม่เหลืออะไร? เลยครับ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับราคาข้าว
 
หอมมะลิที่กระโดดสูงขึ้นในกรุงเทพฯ แต่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในภาคอีสานเราก็
 
ขยับราคาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนะครับ.อย่าไปสนใจเลยครับ สู้ก้มหน้าก้มตาปรับเปลี่ยน
 
จากการทำนาเพียงอย่างเดียว มาเป็นเกษตร "ทฤษฎีใหม่" และดำเนินชีวิตตามแนวพระ
 
ราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" กันดีกว่า คือเราต้องมีความเพียร ความขยัน ความอดทน
 
และ ประหยัด แล้วเราก็จะได้เห็นแสงสว่างเกิดขึ้นเองกับครอบครัวของพวกเรา เพราะ
 
เกษตร "ทฤษฎีใหม่" ช่วยแก้ปัญหาน้ำคือภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง และเป็นการช่วยตน
 
เองอย่างสมบูรณ์แบบ(ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน) โดยการใช้ธรรมชาติมาช่วยธรรมชาติ
 
(ที่ผมพูดว่าอีสานมิได้ขาดน้ำและเรามีสระเก็บกักน้ำไว้ใช้ในปริมาณที่พอเพียง)
 
และเราก็ปรับปรุงการใช้ชีวิตตามแนว"เศรษฐกิจพอเพียง" เราก็จะอยู่ได้อย่าง
 
มีความสุขแล้วนะครับ.
 
              ทีนี้เรากลับมาดูกันว่า ทำไม? ผมจึงนำรถเล็กอย่างไดฮัดสุ มาลากรถพ่วง
 
๔ ล้อเพลานอกมาใช้ในการขนส่งข้าวสารไปขายถึงกรุงเทพฯ จุดใหญ่คือราคา สมเหตุผล
 
เพราะได้เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นโตโยต้าหัวฉีดขนาด ๑,๓๐๐ ซี.ซี.และได้ติดตั้งระบบก๊าซ
 
LPG เรียบร้อยแล้ว จะทำให้ประหยัดค่าเชื้อเพลิงลงได้มาก และถ้าขนส่งในระยะทางไม่ไกล
 
เช่นจากตำบล เข้า อำเภอ/หรือเข้าจังหวัด ไม่ไกลมาก หางพ่วงยังสามารถบรรทุกน้ำหนัก
 
ได้เพิ่มขึ้นถึง ๒,๐๐๐ - ๒.๕๐๐ กก และตัวรถเก๋ง บรรทุกได้ ๗๕๐ กก. เครื่องขนาด
 
๑,๓๐๐ ซี.ซี.ยังลากไหว. ถ้าเราใช้บรรทุกน้ำหนักรวม ๓.๒๕๐ กก./เที่ยว ค่าขนส่ง/กก.
 
จะลดลงเหลือเพียง เท่ากับ ๑.๙๘๓/ ๓,๒๕๐ =  ๐.๖๑ บาท/กก. เท่านั้นครับ.
 
               พร้อมนี้ยังมีตัวอย่างการใช้เครื่องสีข้าวประสิทธิภาพสูง ค่าเดินเครื่องถูก
 
ค่าไฟฟ้าตก ชม.ละ ๓.-ยาทเท่านั้น. ผมบวกกำไรไว้แล้วถึง ๓๐% มากเกินพอแล้วนะครับ.
 
ทีนี้รามาดูราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิเมื่อครั้งที่ผมทำการคำนวณราคาขายจาก
 
เกษตรกร/ชาวนาเพียง กก.ละ ๗.๕๐ บาท ซึ่งในปัจจุบันซื้อไม่ได้ครับ เราจะเพิ่มราคารับ
 
ซื้อข้าวเปลือกให้เกษตรกร/ชาวนาเป็นพิเศษอีก กก.ละ ๗.๕๐ บาท เป็นราคารับซื้อถึง
 
กก.ละ ๑๕.- บาท/หรือจะแบ่งมาก่อตั้งเป็นกองทุน/หรือธนาคารข้าวไว้เป็นสวัสดิการก็ได้
 
คือ แบ่งมา กก.ละ ๑.๕๐ บาท แปรรูปข้าวเดินละ ๒๐ เกวียน ก็จะได้เงินเข้ากองทุนถึงเดือน
 
เท่ากับ ๒๐,๐๐๐ กก.นละ ๒.-บาท เป็นเงิน ๔๐,๐๐๐.- บาท/เดือน.ที่เรามาบวกราคารับ
 
ซื้อข้าวเปลือกให้เกษตรกร/ชาวนาในภายหล้ง ก็เพื่อให้ราคาขายปลีกถ฿งผู้บริโภคไม่สูงจน
 
เกินไป ดังเช่นราคาน้ำมันชนิดต่างๆของ ปตท. บวกแล้วบวกอีกจนทำให้ราคาสูงขึ้นจากราคา
 
หน้าโรงกลั่นถึงเกือบ ๑๐๐% ครับ. ผมมีตัวเลขเก่าๆอยู่ วันข้างหน้าจะนำมาขึ้นเว็บบล็อก
 
ให้ดูกันนะครับ พร้อมคำวิจารย์.
 
ราคาขายส่ง/ขายปลีกที่กลุ่มแปรรูป (หน้าโรงสีชุมชน.)        =       ๑๔.๕๐    บาท/กก.
 
บวกราคารับซื้อข้าวเปลือกพิเศษให้เกษตรกร/ชาวนาอีก กก.ละ ๗.๕๐ บาท.
 
                               =  ๑.๔๔๙ กก.@๗.๕๐ บาท  =       ๑๐.๘๗    บาท/กก.
 
ราคาขายชั้นต้นที่ตลาดกรุงเทพฯ                               =       ๒๕.๓๗    บาท/กก.
 
บวกค่าการขายและกำไรผูขาย กก.ละ                          =        ๔.๖๓    บาท./กก.
 
รวมเป็นราคาขายปลีกที่ตลาดกรุงเทพฯ                         =       ๓๐.-      บาท/กก.
 
          น่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมกับราคาที่ตลาดกรุงเทพมหานครฯ
 
 
                    ด้วยจิตรคารวะ
 
             ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
 
 


Windows Live: Make it easier for your friends to see what you're up to on Facebook. Find out more.

ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง "จากใต้" สู่ "อีสาน" คารวานผลไม้ช่วยเกษตรกร.

on วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

 
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
               วันนี้วันอังคารที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๒ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู จากแนวคิดที่ว่า
 
 ทำไม? เราไม่จับมือกับเกษตรกรผู้ผลิตผลไม้ เพื่อแลกเปลี่ยนผลผลิตจากข้าวกล้อง และ ข้าว
 
ขาวหอมมะลิ กันครับ จากบทความ.-
 

        โครงการพัฒนาลุ่มน้ำบางทรายตอนบนอันเนื่องมาจากพระราดำริ.

 

                             อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร.

 

           ซึ่งผมได้นำเสนอไปแล้วนั้น ยังมีบทความ ข้าวหอมมะลิจากทุ่ง

 

                                        กุลา สู่ภาคใต้

 

                 และผมได้นำมาเสนอให้อ่านกันอีกครั้งหนึ่งนะครับ ซึ่งการจัดการ โครงการ ข้าว

 

หอมมะลิจากทุ่งกุลา สู่ภาคใต้นั้น ดำเนินงานโดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดงานจำหน่ายข้าวหอม

 

มะลิ จากทุงกุลาร้องให้ ณ บริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาจังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่

 

๓๑ กรกฎาคม - ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ นี้ โดยภายในงานมีสหกรณ์ที่นำข้าวหอมมะลิไปจำหน่ายจาก

 

๔ สหกรณ์คือ สหกรณ์การเกษตรสุวรรณภูมิ จำกัด  สหกรณ์การเกษตรโพนทราย จำกัด จังหวัด

 

ร้อยเอ็ด สหกรณ์การเกษตรชุมพลบุรี จำกัด จังหวัดสุรินทร์ และสหกรณ์การเกษตรมหาชะนะชัย

 

 จำกัด จังหวัดยโสธร. พี่น้องเกษตรกรชาวสวนผลไม้ก็ติดต่อไปได้นะครับ ส่วนพี่น้องเกษตรกร/ชาว

 

นาจากภาคอีสานนั้น ก็สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลได้จากข้อมูลตำบล/หรือ thaitumbon.com ก็ได้

 

เพื่อใช้ติดต่อในการซื้อขายและแลกเปลี่ยนกันกับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในภาคใต้นะครับ.

 

            อนึ่งในบทความ "จากใต้" สู่ "อีสาน" มิได้บอกราคาผลไม้มาด้วย ผมขอนำราคาลองกอง

 

ที่ตลาด ราชวัตร (ใกล้สถานีรถไฟสามเสน) นะครับ ราคา ๓ กก./ ๑๐๐.-บาทครับ หรือ กก.ละ ๓๕.-บาท

 

และราคาที่ตลาดศรีย่าน ทำไม? ๓ กก/ ๕๐.-บาท หรือ กก.ละ ๒๐.-บาทครับ ราคาผลไม้ ลองกอง

 

ตามปกติที่ตลาดกรุวเทพฯจะมีราคาถึง กก.ละ ๗๐ - ๘๐.-บาท และจากบทความนี้ ผลผลิตก็ยังจะมี

 

เพิ่มขึ้นทุกปี ผมเองจึงเห็นว่า ถ้าเกษตรกร/ชาวนาจากภาคอีสานได้แลกเปลี่ยนกันทั้งการซื้อขายและ

 

แลกเปลี่ยนผลผลิต ซึ่งกันและกัน ก็จะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูล

 

กัน ในการทำการเกษตร "ทฤษฎีใหม่" เพื่อการดำรงค์ชีพตามแนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง"

 

ให้กันและกันได้อีกด้วยนะครับ.

 

            ผมยังไม่อยากเห็นเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในภาคใต้ต้องถึงกับโค่นต้นทุเรียน และต้นลองกอง

 

มาเผาเป็นถ้านขาย เช่นเกษตรกรชาวสวนลำใย ในจังหวัดน่านเลยครับ. พออยู่ พอเพียง ไม่ดีกว่าหรือ?ครับ.

 

พี่น้องครับ เราต้องมีรถปิคอัพและรถพ่วง และใช้ไบโอก๊าซนะครับ จึงจะสามารถขนข้าวจากอีสาน ไปแลก

 

ผลไม้จากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนผลไม้จากภาคใต้ได้ครับ.

 

                         ด้วยจิตรคารวะ

 

                ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



Hotmail® is up to 70% faster. Now good news travels really fast. Try it now.