FW: โครงการพัฒนาที่ดินสาธารณะ ๒,๐๐๐ ไร่เศษ เพื่อเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง.

on วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

>>> โครงการพัฒนาพื้นที่ สาธารณะ ของท่านนายก อบ.ต. กระเบื้องใหญ่ อำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา ที่น่าสนใจครับ.
 
>>>  เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาที่นับถือ.
 
>>>              ผมคิดว่า แนวคิดของท่านนายก อบ.ต. กระเบื้องใหญ่ ที่ต้องการ นำพิ้นที่ดิน จำนวน ๒,๐๐๐ ไร่เศษ
 
>>>  เพื่อนำมาพัฒนาเป็น โครงการแก้มลิง ผมชอบแนวคิดของท่านนายกชอบ เรียบร้อยมากครับ ที่ท่านได้คิดทำในสื่ง
 
>>>  ใช้ช่วยพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาในตำบล กระเบิ้องใหญ่ ที่ท่านรับผืดชอบอยู่ เพื่อที่จะทำให้พี่น้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
 
>>>  แทนที่จะคิดทำในสิ่งที่พี่น้องเกษตรกร/ชาวนา จะได้รับประดยชน์น้อย และไม่ทั่วถึง.
 
>>>              แต่ใจจริงของผมนั้น ไม่สู้จะเห็นด้วยซักเท่าไหร่ ? ทั้งนี้ก็เพราะ จะเป็นโครงการที่ใหญ่เกินไป จะใช้งบ
 
>>>   ระมาณที่สูง ที่สำคัญจะใช้เวลาหลายปี ซึ่งก็โชคดีที่ สำนักงาน ส.ป.ก. เขาไม่มีรโยบายในเรื่องนี้ ผมจึงได้แนะนำไปว่า
 
>>>   น่าที่จะนำมาแบ่งทำเป็นแปลงเกษตร ทฤษฎีใหม่ โดย ทาง สำนักงาน ส.ป.ก. สามารถสนับสนุนให้ได้ ดังที่ผมได้เรียนให้
 
>>>   ท่านนายก ฯ มราบโดยผ่านไปที่ ท่าน ปลัดปราโมทย์ ฯ
 
>>>               ถ้าทำได้จริง ก็จะสามารถช่วยพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาที่ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินได้เป็นจำนวนถึง ๑๕๔ ครัวเรือน
 
>>>    แบ่งให้ครัวเรือนละ ๑๐ ไร่ รวมเป็นที่ดินที่ใช้ทำเกษตร ทฤษฎีใหม่ จำนวน ๑,๕๔๐ ไร่ และยังมีเหลือ ทำอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก
 
>>>    และยังเหลือที่ดินใช้ปลูกสวนป่าชุมชนได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นโครงการที่ใช้แก้เหตุแห่งทุกข์ ของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาได้ถูกต้อง.
 
>>>    ก็คือการเข้าไปแก้ที่เหตุแห้งทุกข์ ของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาได้อย่างตรงเป้าครับ.
 
> > >             จึงเรียนมาเพื่อพี่น้องเกษตรกร/ชานา ท่านนายก อบ.ต ซึ่งมีที่ดินสาธารณะแบบเดียวกัน จะได้ นำไป
 
> > >    ทดลองทำกันต่อไปครับ.
 
                     นับถือ.
 
             ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
 
               ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๒
 

 

From: msuriyamas@hotmail.com
To: p2479@hotmail.com
Subject: FW: โครงการพัฒนาที่ดินสาธารณะ ๒,๐๐๐ ไร่เศษ เพื่อเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง.
Date: Sun, 5 Apr 2009 08:21:05 -0800


 

From: msuriyamas@hotmail.com
To: krabuangyai@hotmail.com
Subject: โครงการพัฒนาที่ดินสาธารณะ ๒,๐๐๐ ไร่เศษ เพื่อเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง.
Date: Sun, 18 May 2008 10:20:32 -0800

           From : Prachoom Suriyamas. msuriyamas@hotmail.com
           To : KhunChorb Riabroi. krabuangyai@hotmail.com
           Date : Sun.May,18.2008,21.00hrs.
           Subject : โครงการพัฒนาที่ดินสาธารณะ ๒,๐๐๐ ไร่เศษ เพื่อเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง.
 
           เรียนคุณชอบ เรียบร้อย ที่นับถือ.
 
                          ที่ผมทราบว่า เกษตรกร/ชาวนาจาก ๙ตำบลใน ๑๒ ตำบลของอำเภอพิมายนั้น ก็เพราะว่า
 
           ผมได้พบคุณลุง ๒ นที่มีอาชีพ ทำนา มาจากอำเภอพิมาย ต้องเข้ากรุงเทพฯและท่เข็นรถขายเฟอร์นิเจิอร์
 
           พื้นบ้านอยูแถวสี่แยกราชวัตร อำเภอดุสิต กรุงเทพฯ ผมเองปนคนโคราชและได้มาอยู่แถวนี้นานมาแล้ว
 
           จากการสอบถามก็ได้ความว่า ปัจจุบันนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร นาข้าวถูกน้ำท่วมหนักแทบจะทุกปี ทำให้ไม่มี
 
           รายได้และไม่มีอะไรทำ เพราะหลังน้ำท่วมก็แล้งน้ำ ไม่มีน้ำทำการเพาะปลูกอะไรได้เลย และผมก็ได้ถามว่า
 
           เท่าที่ผมรู้นั้น พื้นที่อำเภอพิมายเคยเป็นอู่ข้าวอูน้ำไม่ใช่เหรอ? คุณลงทั้งสองตอบว่า ใช่ ไม่เคยถูกน้ำท่วม
 
           มากอย่างทุกวันนี้ และก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะเหตุได? ได้ไปรอ้งทั้งที่ อบ.ต.(ผมจำไม่ได้แล้วว่าอบ.ตอะไร?)
 
           อำเภอ, และจังหวัดแล้ว ก็ไม่มีไครช่วยเหลือได้เลย ผมมาเอะใจและนึกขึ้นได้ว่า จะเหมือนเกษตรกร/ชาวนา
 
           ที่จังหวัดกาฬสินธุ์หรือเปล่า ที่ถูกน้ำจากเขื่อน ลำปาวปล่อยลงมาท่วมหนักมากเมื่อปี ๒๕๔๘ จนรัฐบาลคุณทักษิณฯ
 
           ต้องนำ ครม.สัญจร ไประชุมกันที่ โรงแรมริมปาว และได้มีการอนุมัติเงินงบประมาณค่าก่อสร้างเสริมสันเขื่อน
 
           ลำปาวให้สูงขั้นอีก ๒.๐๐ เมตร แล้วผมจะเรียนรายละเอียดให้ทราบภายหลัง ผมจึงคิว่าน้ำที่ไปท่วมพี่น้องเรานั้น
 
            น่าที่จะมาจากเขื่อน ลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัยเป็นแน่ เพราะต่อมาก็มีข่าวเขื่อน ลำรพเพลิงปล่อยน้ำลงมาท่วม
 
           ไร่นาผู้ที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อน ลำพระเพลิง อย่างหนักเช่นเดียวกัน  ผมขอยืนยันว่าเป็นความจริง เพราะผมได้
 
           ไปอบรม การเกษตรฯ ที่อำเภอศรีประจันท์ จังหวัดสุพรรณบุรี วิทยากรคือ ครูทองเหมาะ แจ้มแจ้ง เกษตรกรดีเด่น
 
            ประจำปี ๒๕๔๙ สาขาการทำนา ชาวนาสุพรรณบุรี เขาทำนากันโดยใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์และปุ๋ยคอก ถ้าไครทำนา
 
            ได้ผลผลิต/ไร่ ต้ำกว่า ๑ เกวียน แสดงว่ามือยังไม่ถึง เพราะส่วนใหญ่จะได้เกิน ๑ เกียน/หรือเกิน ๑,๐๐๐ กก./ไร่.
 
            และผมก็ได้พบพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาจากอำเภอพิมายจากหลายตำบล เหมารถทัวมากันเป็นร้อย จึงได้สอบถาม
 
            เรื่องน้ำท่วมไร่นาว่า จริงหรือ และทุกท่านตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า จริง ไม่เหมือนแต่ก่อน เพราะท่วมก็ไม่หนัก
 
            เช่นทุกวันนี้ และมีหลายท่านที่ติดตามข่าวเขื่อ ลำพระเพลิงปล่อยน้ำลงมาท่วมไร่นา พวกเขาก็สงสัยเช่นเดียวกัน.
 
                        ก่อนที่จะเข้าเรื่องโครงการฯ ผมต้องขออนุญาติสร้างที่อยู่ของ จดหมายอีเล็กตรอนิค ให้ ตำบลกระ
 
            เบื้องใหญ่  /หรือของท่านนายกนั่นเองครับ ผมใช้ดังนี้ ที่อยู่อีเมล์ E- mail : krabuangyai@hotmail.com
 
            โดยใช้ระหัสผ่าน ซึ่งมีความหมายว่า ' วันที่ ๑๐ เดือนพฤษภ่คม ๒๕๕๑ นั่นคือระหัสผ่าน (Pasword) : 1052551
 
            ผมได้ทดลองส่งแล้วใช้ได้ครับ ท่านนายกใช้อีเมล์นี้เข้าไปอ่านข้อมูลที่ผมจะส่งไปให้ได้เลยครับ.
 
                        เรื่องโครงการแก้มลิงซึ่งผมได้คุยกับท่านปลัดปราโมทย์ฯ นั้น เราไม่สามารถทำเป็นโครงการผ่านสำนักงาน
 
            ส.ป.ก. ครับ เพราะทางสำนักงานเขาไม่มีนโยบาย ทางเขาทำให้ได้เฉพาะการจัดสรรค์ที่ทำกินให้แก่เกษตรกรที่
 
            ไม่มีที่ทำกินและยากจนเท่านั้น และเกษตรกรดังกล่าวก็จะต้องไปขึ้นทะเบียนไว้กับทางอำเภอครับ ตกลงโครงการ
 
             แก้มลิงก็ต้องระงับนะครับ เพราะถ้าทำก็จะต้องไช้งบประมาณเป็นจำนวนมากด้วยอีกอย่าง น้ำก็จะถึงประชาชนได้
 
             ยากครับ ดังนั่นถ้าต้องการให้สำนักงาน ส.ป.ก.ดำเนินการ เราจึงต้องทำ 'โครงการพัฒนาที่ดินสาธารณะ ๒,๐๐๐
 
             ไร่เศษ เพื่อเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง.' คุณสมบัติที่ดินใช้ได้ครับ แต่ทางทานนายกด้องแยก
 
             ให้ชัดเจนครับว่า พื้นที่ ทั้งหมดมีกี่ไร่? มีพี่น้องเข้าไปบักรุกและทำกินอยู่แล้วกี่ไร่? ที่ๆเหลือจริงกี่ไร่ โดยจะต้อง
 
             ดำเนินการดีงต่อไปนี้ครับ.-
 
                        ๑.) ส.ป.ก.ทราบว่า ที่ดินแปลงนี้เคยมีประกาศเป็นที่ดินเขต ส.ป.ก.มาแล้ว เมื่อปี ๒๕๒๐ แต่ดูเหมือนว่า
 
                             จะมีการยกเลิกในปี ๒๕๓๖ เขาไม่แน่ใจนะครับ ทางอบ.ต.มีหลักฐานหรือไม่?
 
                        ๒.) ถ้ามีการยกเลิกไปแล้ว ทางอบ.ต.จะต้องทำการรังวัดและทำแผนที่ มาตราส่วน  ๑ : ๕๐๐๐๐
 
                             (เท่าแผนที่ทหารที่ใช้กันอยู่) โดยแยกเขตให้ชัดเจนว่าถูกบุกรุกแค่ไหน?ให้ขัดเจน
 
                       ๓.)  มีปัญหาสำหรับผู้ที่เข้าไปใช้ประโยชน์เช่นเข้าไปเลี้ยงวัว,ควาย หรือไม่? ต้องตกลงให้ชัดเจน
 
                       ๔.) ส.ป.ก.จะไปช่วยทำสาธารณูปโภคให้หากได้รับการอนุมัติ.
 
                       ๕.) เป็นข้อสำคัญที่สุดคือ ทาง อบ.ต. กระเบื้องใหญา มีวัตถุประสงค็หลักอะไร? ต้องชัดเจน.
            
 
                            ที่ผมได้คุยไว้ก็คือ อบ.ต.อยากทำโครงการแก้มลีง อันนี้ทำไม่ได้ ผมพูดไปอย่างนี้นะครับ
 
                            เป็นความเห็นของผมนะครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านนายกจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่ ผมบอกว่า
 
                            ที่ๆเหลืออยู่ตามที่ทราบจากท่านปลัดปราโมทย์นั้นมีประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ ถ้าจะให้เกิดประโยชน์
 
                            ถึงตัวประชาชน น่าที่จะแบ่งทำเป็นแปลงเกษตร 'ทฤษฎีใหม่' เพื่อการดำรงค์ชีพตามแนวพระราชดำริ
 
                            'เศรษฐกิจพอเพีย.' แต่ทาง ส.ป.ก.ยังจะต้องช่วยตั่งงบประมาณช่วยเหลือ ในการขุดสระน้ำประจำ
 
                            ไร่นาให้ด้วย เพราะเกษตรกร/ชาวนาที่ อบ.ต.จะดำเนินการให้ก่อนคนอื่นก็คือเกษตรกร/ชาวนาที่
 
                             ไม่มีที่ทำกินและยากจนที่สุดก่อน โดยผมคุยว่า อบ.ต.กระเบื่องใหญานั มีจำนวนประชากร
 
                            ๖๔๔๓คนจำนวนครัวเรือนมี ๑,๕๓๑ หลังคาเรือน จำนวนคน/ครัวเรือนประมาณ ๔ คน อย่างมาก
 
                           ไม่น่าจะเกิน ๖ คน/ครัวเรือน ถ้าเรามาคิดกันว่า พี่น้องที่เดือดร้อนที่สุด มีอยู่สัก ๑๐% ก็จะเป็น
 
                            จำนวน ๑๕๔ ครัวเรือนถ้าเราแบงที่ทำกินให้ครัวเรือนละ ๑๐ ไร่ เขาจะอยู่ได้หรือไม่ ผมบอกว่า
 
                            คนเราถ้ามีข้าวเปลือกพอกินตลอดปีแล้วทำไม? จะอยู่ไม่ได้? ผมจึงยกแนวพระราชดำริ 'ทฤษฎีใหม่'
 
                            ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ฟังว่า ต้วเลขของพระองค์ท่านบอกว่า คน ๑ คนกินข้าว
 
                            คิดเป็นข้าวเปลือกคนละ ๒๐๐ กิโลกรัมโดยเฉลี่ย/ปี คน ๖ คน(มากสุด) ต้องการมีข้าวเปลือกไว้กิน
 
                            จำนวน เท่ากับ ๑,๒๐๐ กิโลกร้ม/ปี ทีนี้เรา กลับมาคำนวนพื้นที่ทำนาจากแปลงเกษตร ทฤษฎ๊ใหม่
 
                            พื้นที่ ๑๐ ไร่ ทำนา ๓๐% เท่ากับ ๓ ไร่ ถ้าทำนาดำทำแบบปราณีตแบบปู้ ย่า ตา ยาย ของพวกเรา
 
                            ดินก็จะฟื้นคืนชีวิต ผลผลิตควรจะได้ไร่ละ ๕๐๐ กิโลกร้ม ก็จะเท่ากับ ๓x๕๐๐ = ๑,๕๐๐ กิโลกรัม
 
                            นั่นคือพอกิน และถ้าสระมีน้ำจัดช่วงเวลาให้ดีชาวนาก็จะสามารถทำนารอบที่สองได้คือ ทำนา
 
                            แบบล้มตอซัง หากชาวนาใช้แรงงานในครัวเรือน และแรงงานสัตว์ ก็แทบจะไม่ต้องใช้เงินเลยครับ
  
                            โอ.เค.ใช้ได้
 
                                            พื้นที่ดินที่เหลือ = ๒,๐๐๐ ไร่เศษ ลบด้วย ๑๕๓๔ = ๕๖๖ ไร่  ตรงจุดไหนมีแอ่งน้ำ
 
                               หรือบึงอยู่แล้ว ก็จะสามารถขุดลอกให้เป็นอ่างเก็บน้ำได้ในภายหลัง เพื่อไว้เสริมน้ำให้แปลงเกษตร
 
                               ตามหลัก อ่างใหญ่ เอาน้ำมาเติมให้อ่างเล็ก ก็จะช่วยให้ พืนที่โครงการมีน้ำอย่างพอเพียง อ่างเก็บน้ำ
 
                               ขนาดความจั ๑,๒๐๐,๐๐๐ ลบ.ม.ขุดลึกเฉลี่ย ๔.๐๐ เมตร จะกินพื้นที่ = ๑,๒๐๐,๐๐๐/๔ =
 
                                ๓๐๐,๐๐๐ ตารางเมตร หรือ = ๓๐๐,๐๐๐/๑,๖๐๐ = ๑๘๗.๕๐ ไร่เท่านั้น อ่างที่มีความจุ
 
                               ขนาดนี้จะมีน้ำไว้บริการเกษตรกร/ชาวนาได้จริงประมาณ ๙๐๐,๐๐๐ ลบ.ม.(อ่างเก็บน้ำ
 
                               'สายนาเวียง'อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ คงามจุเท่ากันนี้ (ผมเอาตัวเลขของพระองค์ท่านมาครับ)
 
                               และสามารถ บริการพื้นที่เกษตรกรรมได้ถึง ๓,๐๐๐ ไร่ ถ้าเป็นระบบชลประทานธรรมดา จะบริการ
 
                               พิ้นที่ได้เพียง ๕๐๐ ไร่เท่านั้น (ระบบ บูรณษการและทฤษฎีใหม่ ประสิทธิภาพสูงกว่าถึง ๖๐๐%
 
                               นะครับ และใช้งบประมาณในการขุดเพียง ๖๖๗,๐๐๐.บาท เศษ เท่านั้น  แถมยังมีที่ดินเหลือจาก
 
                               การขุดสระใหญ่ทำอ่างเก็บน้ำแล้ว = ๕๖๖ - ๑๘๗.๕๐ = ๓๗๘.๕๐  เอาไปทำถนน แล้งยังเหลือ
 
                               พอทำสนามก๊อล์ฟ เลยนะครับ พอเพียงทำเป็นสวนป่าขุมขนได้เลยครับ.ทั้งหมดนี้คือ ความคิดเห็น
 
                               ของผมเท่านั้นครับ  ผมคิดว่า ประชาธิปไตยกำล้งเบ่งบาน ถ้าท่านทำประชาพิจารย์ถามพี่น้อง
 
                               เกษตกรว่าเขาต้องการทำอะไร? ก็จะดีมากๆเลยครับ เพราะถ้าตกลงกันได้ก่อน ผมรับรองว่า
 
                                โครงการนี้ จะไม่มีอุปสรรคอะไรเลยครับ  เพราะความโปร่งใส จะทำให้ทักคนรู้เห็นและเข้าใจ
 
                               ครับว่า โครงการนี้เราทำเพื่อพวกเขาจริงๆ. อบ.ต.นาที่จะนำพี่น้องเกษตรกร/ชาวนา ไปดูงานที่
 
                               อำเภอเขาวงเลยครับ พวกเขาจะได้ไปสอบถามและเห็นด้วตาตนเอง ความเข้าใจในโครงการก็จะมี
   
                               มากขึ้นครับ.   
 
                               สุดท้าย เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของสำนักงาน ส.ป.ก. ที่ผมติดต่อไปคือ คุณชาญณรงค์ ซีบางเกิด
 
              โทร. ๐๒ - ๒๘๑ - ๒๙๗๑, และสายตรงที่โต๊ะ ๐๒ - ๒๘๒ - ๙๙๓๑ ครับ ติดขัดอะไร? โทรไปได้เลยครับ.
 
                                จึงเรียนมาเพื่อทราบ.
 
                                 ขอแสดงความนับถือ.
 
                                 ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
 
                     
                 


Change the world with e-mail. Join the i'm Initiative from Microsoft.

Rediscover Hotmail®: Get e-mail storage that grows with you. Check it out.

What can you do with the new Windows Live? Find out

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น