FW: จดหมายเปิดผนึกถึง คุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี.

on วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552


 


From: msuriyamas@hotmail.com
To: msuriyamas@hotmail.com
Subject: จดหมายเปิดผนึกถึง คุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี.
Date: Tue, 23 Jun 2009 18:08:20 -0800

 
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนา ที่เคารพ
 
               ผมขออนุญาติพี่น้อง เพื่อส่งจดหมายเปิดผนึกถึงคุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
 
พร้อมได้แนบข้อมูลจากบทความ ภาพ พร้อมคำวิเคราะห์อันน้อยนิด ในการสนับสนุน ผลงานการวิจับ
 
เพื่อการตัดสินใจในการเปิดเขื่อนปากมูล เป็นเวลา ๘ เดือน และปิดเขื่อนปากมูลเป็นเวลา ๔ เดือน ซึ่ง
 
มีข้อมูลทางลึกสนับสนุน หากได้รับการพิจารณา ผมคิดว่า ปัญหาเขื่อนปากมูลอันลือลั่น และได้สร้าง
 
ความเสียหายให้แก่พี่น้องเกษตรกร/ชาวนาที่อาศัยอยู่บนรืมฝั่งลุ่มน้ำมูลอย่างมหาศาล จะได้สื้นสุดลง
 
เสียที และผมยังหวังไปอีกว่า ปัญหาเขื่อน ราษีไศล เขื่อนหัวนา และเขื่อน(ฝาย) ต่างๆในโครงการ
 
โขง ชี.มูล อันลือลั่น ก็จะพลอยได้รับการแก้ไขปัญหาไปด้วย.
 
                ไนโอกาศต่อไปผมก็จะได้นำเสนอเป็นจดหมายเปิดผนึกในรูปแบบจากประชาชน
 
ถึงท่านนายกอีกต่อไป ในเรื่องผลกระทบจากเขื่อน ลำปาว เขื่อน ลำพระเพิลง ซึ่งไม่สามารถเก็บ
 
กักน้ำปริมาณมหาศาลได้อีกต่อไปแล้ว ดังเป็นที่ทราบกันดีว่า เขื่อนทั้งสอง ได้ปล่อยน้ำทิ้งในแต่ละปีเป็น
 
ปริมาณมหาศาล ให้ไหลลงมาท่วมไร่นาของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใต้เขื่อน และเลย
 
ไปท่วมถึงพื้นที่ราบอันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำอันอุดมสมบูรณ์ในอดีตอีกด้วย เช่น พื้นที่ ๙ ตำบลใน ๑๒ ตำบล
 
ของอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ และ อำเภอ
 
ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ดมานานแสนนานแล้ว และไม่มีไครเข้าไปแก้ไขปัญหาหรือว่าไม่มีไครรู้เหตุแห่ง
 
ปัญหา/หรือปกปิดปัญหาเอาไว้กันแน่ดังที่เป็นข่าวว่า เมื่อเดือนตุลาคม ปี ๒๕๔๘ มี ครม.สัญจรไปที่
 
โรงแรมริมปาว เพราะทนข้อเรียกร้องและความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาไม่ไหว.และได้
 
อนุมัติเงินงบประมาณถึง ๓,๐๐๐ ล้านบาท แต่มีข่าวบางกระแสบอกว่า อนุมัติเงินงบประมาณถึง
 
๓,๕๐๐ ล้านบาท เพื่องเพื่อต้องการ สยบการเรียกร้องลงเท่าน้น คือจะให้เรสริมสันเขื่อน ลำปาวขึ้นอีก
 
๒.๐๐ เมตร (ซึ่งไม่จริง)เพื่อให้เขื่อน ลำปาวเก็บกักน้ำได้เพิ่มมากขึ้นอีกเพียง ๕๐๐ ล้าน ลบ.ม.
 
จากปรืมาตรเก็บกักปรกติ (โปรดส้งเกตูคำว่าปริมาตรเก็บกักปรกติ) ที่ ๑,๔๓๐ ล้าน ลบ.ม.เป็น
 
 ๑,๙๓๐ ล้าน ลบ.ม. ทั้งๆที่ในอดีตเขื่อน ลำปาวสามารถเก็บกักน้ำได้เป็นจำนวนถึง ๒๕๑๐ ล้าน
 
ลบ.ม.ครับ และได้ปรับลงครั้งแรกเหลือ ๒,๔๕๐ ล้าน ลบ.ม. จึงได้ม้คำถามตามมาว่า
 
"แล้วทำไม?...ทำไม?... จึงต้องใช้เงินงบประมาณสูงถึง ๓,๐๐๐ - ๓,๕๐๐ล้านบาท เพื่อนำมาใช้
 
ก่อสร้าง เสริมสันเขื่อนอีกเล่า"
 
                   ความคิดเห็นของผม เงินจำนวนนี้ น่าที่จะนำไปก่อสร้างเขื่อน ขนาดเก็บกักน้ำได้ซัก
 
๒๕๐ - ๓๐๐ ล้าน ลบ.ม. จำนวน ๓ แห่ง ในพื้นที่เหนือเขื่อน ลำปาวขึ้นไปจะดีกว่า จะเป็นการกระจาย
 
น้ำให้ถึงไร่นาของเกษตรกร/ชาวนาได้ดีขึ้นมากกว่าครับและยังจะสามารถเก็บกักน้ำไว้ได้จริงอีกด้วย.
 
                     จากข้อมูลข้างต้นนี้ ผมจึงมีความเห็นว่า ภาคอีสานมิได้ขาดน้ำเลยครับ  แล้วเรา
 
จะผันน้ำเข้ามาอีกทำไม? และน้ำที่จะผันเข้ามาจะนำไปเก็บกักไว้ที่ไหน? ครับ (เขื่อนต่างๆในอีสานเหนือ
 
 ได้เสื่อมสภาพลงมากแล้วครับ) แต่ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนในแต่ละปียังเปลี่ยนแปลงไปไมกเลยครับ,
 
                     จึงขอเพิ่มจากคุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อีกข้อคือ ขอให้ท่านพิจจารณา
 
โครงการผันน้ำเข้าอีสานเหนือ สู่อีสานใต้ ให้รอบคอบด้วยครับ ผมไม่อยากให้ท่านตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ
 
จากข้อมูลเพียงด้านเดียงวโดยเฉพาะข้อมูลจากทุน (จากนักการเมืองรอบข้างที่มาจากทุน) ครับ ดังเช่นการ
 
ตัดสินใจปิดเขื่อนปากมูลของอดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่านในอดีต ที่ขาดความรับผิดชอบ จนทำให้ปัญหา
 
เขื่อนปากมูลยังคงอยู่ และยังสร้างความเสียหายจนตราบเท่าทุกวันนี้.
 
                      จึงกราบเรียนมาเพื่อให้พี่น้องเกษตรกร/ชาวนาได้ทราบกันครับ.
 
                              ขอแสดงความนับถือ.
 
                           ประชุม สุริยามาศ.วย.๗๗๗
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


Lauren found her dream laptop. Find the PC that's right for you.

Lauren found her dream laptop. Find the PC that's right for you.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น