FW: ๘๐ ปี..ของพ่อผู้ให้ผืนดินสร้างแหล่งทำกิน..อย่างมีความสุขที่พอเพียง. สารประกอบต่างๆที่ให้ธาตุอาหารรองและใช้แก้ดินเปรี้ยวได้ครับ.

on วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552


 

From: msuriyamas@hotmail.com
To: msuriyamas.water@blogspot.com
Subject: ๘๐ ปี..ของพ่อผู้ให้ผืนดินสร้างแหล่งทำกิน..อย่างมีความสุขที่พอเพียง. สารประกอบต่างๆที่ให้ธาตุอาหารรองและใช้แก้ดินเปรี้ยวได้ครับ.
Date: Wed, 26 Aug 2009 18:10:06 -0800

 
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนสันเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
             พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
 
ในทุกๆด้านโดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกิน เพราะยังมีราษฎรอยู่เป็นจำนวนมากที่ขาดปัจจัยนี้.
 
             พระองค์พระราชทานที่ดินทรัพย์สืนส่วนพระมหากษัตริย์ และพระราชทานค่าทดแทนที่ดิน
 
เพื่อนำมาจัดตั้งกองทุนสหกรณ์ โดยให้ผู้เช่าที่ดินอยู่เดิมได้ทำกินในที่ดินผืนนั้นต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
 
ตราบที่ยังยึดถืออาชีพเกษตรกรรมอยู่...อันเป็นแนวทางในการปฏิบัติในการปฏิรูปที่ดินเพื่อก่เกษตรกรรม.
 
             ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๘ จึงมีพระราชบัญญัติ การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม โดยมอบ
 
หมายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อก่เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำไปดำเนินการ  ที่ดินพระราชทานมีพื้นที่
 
ถึง๔๔,๓๕๐ ไน่ ๐ งาน ๕๕.๔๖ ตารางวา จำนวน ๒๕๓ โฉนด อยู่ในท้องที่ ๕ จังหวัด คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา
 
จังหวัดนครนายก จังหวัดนครปฐม จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา "อันเป็นจุดเริ่มต้น การ
 
ปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย"
 
               อนึ่งที่ดินในพื้นที่ จังหวัดนครนายก โดยเฉพาะในอำเภอองค์รักษ์ และพื้นที่ในบางส่วน
 
ของจังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่บางสาวนของจังหวัดปทุมธานีมีดินเปรี้ยวจัด จึงทำให้การทำนาได้
 
ผลผลิตน้อย จนทำให้รัฐต้องยกภาษีที่ดินให้เกษตรกร/ชาวนา จนทำให้ได้ชือว่า จังหวัดนครนายก
 
คือยกภาษีที่ดินทำนาให้.
 
               พร้อมนี้ผมได้นำเสนอตาราง สารประกอบที่ให้ธาตุอาหารองแก่พืชและเป็นสารประกอบ
 
อ๊อกไซด์/เมื่อถูกน้ำก็จะแตกตัวเป็น ไฮดร๊อกไซด์ซึ่งมีฤทธืเป็นด้าง เกษตรกรกรจึงสามารถใช้เป็น
 
สารใส่ในไร่นาที่มีดินเปรี้ยว เพื่อแก้ดินเปรี้ยวได้ครับ ส่วนปริมาณการใช้นั้นไม่ควรเกิน ๒๐๐ กก./ไร่
 
นะครับ แทนที่จะใช้ปูนมาลย์ (ดินมาลย์) เกษตรกรต้องใช้เป็นปริมาณถึง ๑.๕ - ๒.๕ ตัน/ไร่ ใส่ปีเว้น
 
ไป ๓ ปี ซึ่งต้องใช้แรงงานมาก (แม้ว่า เกษตรกร/ชาวนาจะได้รับแจกฟรีจากกรมพัฒนาที่ดินก็ตาม)
 
แต่เกษตรกร/ชาวนาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการไปขนปูนมาลย์มาจากสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด จึง
 
ทำให้เกษตรกรไม่มีเงินพอที่จะไปขนมาใส่นาของตนเองได้ (รัฐบริการไม่ครบวงจร) ผมจึงแนะนำให้
 
หันมาช่วยตนเองโดยใช้ปูนซีเมนต์แทนปูนมาลย์ครับ ใช้ไร่ละ ๑๕๐ - ๒๕๐ กก.ผลผลิตที่ได้เพิ่มขึ้น
 
นั้นคุ้มค่าครับ.  
 
                         ด้วยจิตรคารวะ
 
                ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
 
   


Hotmail® is up to 70% faster. Now good news travels really fast. Try it now.

Windows Live: Keep your friends up to date with what you do online. Find out more.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น