สหรัฐซุ่มวิจัยก๊อบปี้หอมมะลิ พาณิชย์หวั่นคู่แข่งสำคัญไทย

on วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552

เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาไทยทั่วประเทศและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
      กรณีย์สหรัฐอเมริการได้ทำการวิจัยพันธุ์ข้าวหอมมะลิเป็นผลสำเหร็จ และจะให้ชาวนาอเมริกัน
 
ในรัฐลุยเซียนา จะหันมาปลูกข้าวนี้มากขึ้น และช่วยทดแทนการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยได้
 
ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงว่าข้าวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐ มีปริมาณ
 
ส่งออกเฉลี่ยปีละ 4 แสนตัน แต่กว่าข้าวแต่ละชนิดจะเป็นที่ยอมรับจากตลาด ต้องใช้เวลาหลายปี
 
ที่สำคัญผลผลิตข้าวหอมมะลิเขาผลิตได้ถึง ๑,๒๒๖ กก./ไร่ ส่วนของเราผลผลิตได้เพียง ๔๐๐ กก/ไร่
 
และรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ราคาประกันเพียง ๑๐,๐๐๐.-บาท/เกวียนเท่านั้น.
 
           ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ชาวนาไทยจะได้พิจจารณาให้ถ่องแม้ว่า พวกเราควรจะปรับเปลี่ยน
 
การทำนาข้าวหอมมะลิเพื่อขายให้พ่อค้าส่งออก หรือจำทำนาข้าวหอมมะลิไว้กิน กินเเหลือจึงขาย
 
ทั้งนี้เพื่อลดปริมษรข้าวภายในประเทศลง ราคาก็จะดีขึ้น (ราคาตลาดโลกลืมไปได้เลย) นอกจาก
 
ผลกระทบทางด้านราคาแล้ว ชาวนาไทย ยังมีต้นทุนการผลิต/กก. สูงอีกด้วย เพราะราคาปุ๋ยเคมี
 
ปรับสูงขึ้น ราคาน้ำมันดีเซลล์ก็สูงขึ้น และยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำแล้งอีกด้วยจากการบริ
 
หารจัดการน้ำของภาครัฐที่ล้มเหลว ดังจะเห็นได้จากแปลงเกษตรปลูกยางพารา และแปลงนาที่ผม
 
ได้นำมาลงให้ชมนี้คือ.-
 
      ๑.) แปลงนาข้าวของนายทองหนัก ศรีคัดเค้า อายุ 49 ปี เลขที่ 176 หมู่ 5 ชาวนาบ้านธนบุรี
 
           ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จะเห็นว่า แปลงนานั้นขาดน้ำ เพราะเขื่อน ลำปาว
 
           ไม่มีน้ำเพียงพอ แต่ต้องรีบเก็บเกี่ยวเพราะเข้าหน้าฝน น้ำจากเขื่อนลำปาวจะทะลักไหลง
 
            มาท่วมและเป็นอยู่อย่างนี้ทุกปีไม่มีการแก้ไขจากรัฐ (ผลกระทบจากนโยบายรัฐ)
 
           วิธีการแก้ปัญหาคุณทองหนัก ฯครับ คุณต้องต้ดสินใจแล้วละครับว่าคุณต้องปรับ
 
            เปลี่ยนมาทำเกษตร "ทฤษฎีใหม่" เพื่อการดำรงค์ชีพตามแนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง"
 
            หรือการพึ่งตัวเองครับ ผมไม่ทราบว่าคุณทำนากี่ไร่? เฉลี่ยสมมุติ ๑๕ ไร่ เกษตร "ทฤษฎีใหม่นั้น
 
            ต้องแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๔ ส่วนดังนี้ ขุดสระลึก ๔ เมตร : ทำนา : ปลูกไม้ ๓ อย่างเพื่อ
 
            ประโยชน์ ๔ อย่าง : ปลูกบ้าน โรงนา คอกสัตว์ และปลูกผักสวนครัว = ๓๐ :๓๐ :๓๐ : ๑๐
 
            และเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์/จุลินทรีย์/มูลสัตว์ และใช้แรงงานในครัวเรือน/แรงงานสัตว์พื่อลด
 
            ต้นทุนการผลิต เมื่อเราทำนาน้อยก็จะสามารถดูแลได้ดีนอกจากต้นทุนต้ำแล้ว ผลผลิตก็จะสูง
 
            ขึ้นอีกด้วย (เกษตรกร/ชาวนา สุพรรณบุรี ได้ผลผลิตข้าวถึง ๑,๐๐๐ กก.ขึ้น/ไร่ โดยการใช้ปุ๋ย
 
            จุลินทรีย์
 
                     ๑.๑) พื้นที่ขุดสระ ๓๐% = ๔.๕ ไร่ ถ้าน้ำท่วมสูงสุด ๐.๗๐ เมตร เราน้อมนำโครงการ
 
             แก้มลิงมาปรับใช้ในการขุดสระเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยขุดดิยจากข้างในมาถมเป็นคันกว้าง
 
             ๔.๕๐ เมตรถมสูงกว่าระดับน้ำสูงสุด ๐.๓๐ เมตร คันดินถมจะสูง ๑.๐๐ เมตร สูงพันน้ำอยู่
 
             ๐.๓๐ เตร เพื่อใช้ปลูกผักสวนครัวได้ตลอดปีเพราะมีน้ำ ดินขุดเหวี่ยงมาถมไม่ต้องขน  ขนาดร่อง
 
             ปากกว้าง ๘.๕๐ เมตร กันร่องกว้าง ๔.๕๐ เมตร เท่าคันดิน และลึกเพียง ๑.๐๐ เมตร จะได้ดิน
 
             ขุดพอดีนำมาทำคันจำนวน ๑,๖๐๐ ลบ.ม. เศษ ค่าขุด/เกลี่ย/บดตกประมาณ ๑๕,๐๐๐.-บาท
 
              แต่ต้องวางแผนเผื่อขยายไว้ด้วย แก้มลิงรวมร่องน้ำ จะเก็บน้ำได้ประมาณ ๗,๕๐๐ ลบ.ม. ปล่อย
 
              ปลานิลลงเลี้ยง ๑๕,๐๐๐ ตัว เล้ยง ๖ - ๘ เดือน จะได้ผลผลิตปลาประมาณ ๗๕๐ กก./ปี นำไป
 
              ขายตรงที่ตลาด กก.ละ (ขนาด ๕ - ๖ ต้ว/กก.) ๓๐.-บาท จะได้เงินเป็นค่าขุดสระแล้วจำนวน
 
              ๒๒,๕๐๐.-บาท/ปี. แก้มลิงต้องวางท่อและทำประตูระบายน้ำเข้าด้วย
 
                     ๑.๒ ) พื้นที่ทำนา ๓๐ % = ๔.๕๐ ไร่ พื้นที่ติดต่อกับสระแก้มลิงขุดดินทำคันกว้าง
 
             ซัก ๒.๕๐ เมตร ถมสูง ๐.๕๐เมตร ปล่อยน้ำเข้าท่วมเป็นแก้มลิงเช่นกัน หล้งน้ำลด ๑ เดือน
 
             ก็จะสามารถปลูกผักบนค้นนาได้น้ำในสระแก้มลิงก็จะลดลงประมาณ ๓๐ - ๔๐ ซม เช้นกัน
 
             เราก็จะสามารถสูบน้ำจากที่ๆจำทำนาเข้าไปเก็บไว้ ก็อาจจะทำนาปีได้ก่อนเพื่อนคือ ใช้
 
             ยุทธการหว่านวันแม่- เกี่ยววันพ่อ และทำนาต่อ (ถ้าจะทำนาล้มตอซังต่อควรทำนาดำ)
 
             รอบที่สองได้อีกโดยการทำนาแบบล้มตอซัง.ตามข้อมูลที่ผมได้ส่งตามมาให้แล้วครับ.
 
                    ๑.๓) พื้นที่ปลูกไม้ผล ไม้ยินต้น และไม้ใช้สอย (ปลูกไม้ ๓ อย่างเพื่อประโยชน์ ๔ อย่าง)
 
             ๓๐% เราใช้ริมคันดินปลูกไปพลางๆกอน เมื่อเห็นว่าได้ผลดีในสิ้นปีแรกจึง ขุดสระให้ลึกและกว้าง
 
             เพิ่มขึ้น และนำดินไปถมขยายคันดินให้กว้างมากขึ้นเรื่อยๆและวางแผนปลูกไม้ผลต่อไป
 
             จนกว่าจะครบพื้นที่เป้าหมายคือ ๔.๕ ไร่.
 
                    ๑.๔) พื้นที่ปลูกบ้าน ปลูกโรงนา คอกสัตว์ และปลูกผักสวนครัว ก็ทำเช่นเดียวกันคือขุดขยาย
 
             คันดิน อาจรวมที่นาขุดสระให้ใหญ่ขึ้น ที่ทำนาเลื่อนไปทำในที่ๆดอนกว่าต่อไป.
 
                           ภายใน ๔ ปีก็จะครบถ้วนโครงการแปลงเกษตร "ทฤษฎีใหม่" เราก็จะสามารถ ป้องกัน
 
             ภัยแล้ง ภัยน้ำท่วมได้ และจะมางานทำและมีรายได้ตลอดปี และไม่ต้องกล้วว่า ข้าวหอมจากอเมริกา
 
             จะออกมาตีตลาดอย่างไร? เราก็จะไม่ถูกผลกระทบเลยครับ. ทั้งหมดนี้คือ "ทฤษฎีใหม่" ขั้นที่ ๑ ครับ
 
             ต่อไปขั้นที่ ๒ เราอาจรวมตัวกันทำโรงสีกลุ่มจากข้าวที่กินเหลือแล้วขาย และไม่ต้องไปจ้างโรงสีชุมชน
 
             ประสิทธิภาพต่ำอีกต่อไปครับ.(โรงสีประสิทธิภาพต่ำจะกินข้าวเราไปมากครับ เราไม่ได้สรฟรีนะครับ
 
              ทดลองชั่วข้าวเปลือก ๑๐๐ กก.แล้วนำไปทดลองสีดูก็ได้ เราจะได้ข้าวสารกลับมาถึง ๕๐ กก.หนือเปล่า?)
 
              แต่ถ้าเรารวมตัวกันซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก ราคาประมาณ ๖๕,๐๐๐.-บาท จะสีได้ข้าวสารถึง ๖๕% -
 
              ๖๙% หมายความว่า สีข้าวเปลือก ๑๐๐ กก จะได้ข้าวสาร ๖๕ กก. ปลายข้าว ๕ กก รำข้าว ๑๐ กกและ
 
              แกลบ ๒๐ กก. รวมกันเป็น ๑๐๐ กก.
 
            ๒.) แปลงสวนยางพาราของนายทองใบ บุญแน่น ที่ไถต้นยางทิ้ง ๑๒ ไร่นั้น น่าจะแตกต่างจากที่นาของ
 
               คุณทองหนัก เพราะจะไม่ถูกผลกระทบน้ำท่วมจากเขื่อนห้วยหลวง แต่ก็จัถูกผลกระทบจากภัยแล้ง
 
              คุณทองใบ บุญแน่นก็ควรที่จะปรับเปลี้ยนพื้นที่ ๑๒ ไร่มาเป็นเกษตร "ทฤษฎีใหม่"  โดยการขุดสระลึก
 
             ๔ เมตร พื้นที่ ๓๐% =  ๓.๖ ไร่ จะเก็บน้ำได้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ ลบ.ม. แบ่งขุดเป็น ๕ ครั้งๆละ ๓,๐๐๐
 
             ลบ.ม. จะใช้เงินประมาณ ๒๐,๐๐๐.-บาท โดยขุดเหวี่ยงแล้วถอนทำคัน ๒ ด้าน และขุดต่อในปีต่อไปครับ
 
             ทำนา ๓๐% คิดเป็น ๔ ไร๋ สระมีน้ำ ๓,๐๐๐ ลบ.ม.ไว้เริมน่าจะพอเพียงในปีแรก ปีต่อไปมีน้ำมากขึ้น ก็จะ
 
             ป้องกันภัยแล้งได้และสามารถทำนาแบบล้มตอซังในรอบที่ ๒ ได้อีกด้วย เวลาที่เหลือ ก็ปลูกพืชตระกูลถั่ว
 
             เพื่อปรับปรุงดินนะครับ. พื้นที่น้ำไม่ท่วมคันดินก็ไม่ต้องไปถมสูง เอาแค่เพียงน้ำไม่ขังเพื่อใช้ปลูกไม้ผล
 
             ไม้ยินต้นได้ดีเท่านั้น และเลี้ยงปลานิล เละยงหมูบนบ่อปลานิลครับ. ข้อมูล "ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับน้ำ"
 
             ปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง" ยุทธการหว่านวันแม่ - เกี่ยววันพ่อ การทำนาแบบล้มตอซัง การเล้ยงปู
 
            เลี้ยงเป็ดในนาข้าว และการทำปุ๋ยจุลินทรีย์ต้นแบบครูทองเหมาะ แจ่มแจ้ง ผมได้ส่งตามไปให้แล้วนะครับ.
 
            อย่างช้า วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ คงจะถึงมือทั้งสองท่านนะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้นะครับ
 
            เราต้องเชื่อในพระเจ้าอยู่หัว และต้องอดทน และปฏิบัติตามพระองค์ท่านไมนานเกินรอเราก็จะสามารถ
 
            ยืนอยู่ได้บนลำแข้งของเราเองครับ. แล้วเราและครอบครัวก็จะมีความสุข.
 
                               ด้วยจิตรคารวะ
 
                       ประชุม สุริยามาศ. วย.๗๗๗
 
 
 
 
 
 
สหรัฐซุ่มวิจัยก๊อบปี้หอมมะลิ พาณิชย์หวั่นคู่แข่งสำคัญไทย

วันที่ 28 กันยายน 2552 11:31
ข้าวหอมมะลิ, สหรัฐ
TOOLS
คอลัมน์อื่นๆ
พาณิชย์ เผยสหรัฐเตรียมปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ มีคุณสมบัติหอม นิ่ม ใกล้เคียงข้าวหอมมะลิไทย แถมตั้งชื่อ JAZZMAN เลียนแบบทูตพาณิชย์ไทย
Oneworld AllianceTravel with Around The World Fare Starting Price from THB 92,835www.oneworld.com
บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคลโปรโมชั่นล่าสุด จากทุกธนาคาร ประเมินผล Online ทันทีwww.silkspan.com
นางสมรรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์วิจัยและค้นคว้าเกษตรกรรม มหาวิทยาลัยลุยเซียนา มลรัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่า ได้ค้นคว้าและพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ LA2125 มีคุณภาพทัดเทียมกับข้าวหอมมะลิไทย และตั้งชื่อคล้ายคลึงกันว่า JAZZMAN เพื่อแข่งขันกับข้าวหอมมะลิไทย ส่วนข้าวหอมมะลิไทยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า JASMINE ซึ่งในฤดูกาลผลิตปี 2552/2553 ได้นำเมล็ดพันธุ์ไปให้ชาวนาเพาะปลูกเพื่อการค้าแล้ว
สำหรับข้าว JAZZMAN ศูนย์วิจัยฯ ได้เริ่มการทดลองผสมพันธุ์ตั้งแต่ปี 2509 โดยนำข้าวกลิ่นหอมของจีนสายพันธุ์ 96a-8 มาผสมกับข้าวเมล็ดยาวของรัฐอาร์คันซอ ใช้เวลา 12 ปี จึงเป็นผลสำเร็จ และอ้างว่ามีคุณภาพ ความหอมทัดเทียมกับข้าวหอมมะลิไทย สามารถแข่งขันกับข้าวหอมมะลิไทยได้แน่นอน เพราะข้าวมีความหอมและนิ่ม ที่สำคัญให้ผลผลิตโดยเฉลี่ยไร่ละ 1,265 กิโลกรัม
ขณะที่ข้าวไทยได้ผลผลิตไร่ละ 400 กิโลกรัม ชาวนาผู้ปลูกข้าวดังกล่าว ยืนยันว่าชาวนาในรัฐลุยเซียนา จะหันมาปลูกข้าวนี้มากขึ้น และช่วยทดแทนการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยได้
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คริสโตเฟอร์ ดาเรน ประจำสถาบันวิจัยข้าว มหาวิทยาลัยอาร์คันซอ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวิจัยข้าวหอมมะลิให้ข้อคิดเห็นว่า ข้าวดังกล่าวเป็นข้าวหอมพันธุ์ดีที่สุดของสหรัฐ แต่ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับข้าวหอมมะลิไทย เพราะข้าวหอมมะลิไทยมีคุณสมบัติพิเศษเป็นของตัวเอง และเป็นธรรมชาติ ซึ่งข้าวพันธุ์อื่นๆ ไม่สามารถให้พัฒนาได้ทัดเทียม หรือมาแข่งขันได้ เชื่อว่าข้าวหอมมะลิไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก
"หากชาวนาสหรัฐปลูกข้าวมากขึ้น จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐได้ และทำให้สหรัฐนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยลดลงในอนาคต ส่งผลให้ราคาข้าวหอมมะลิไทยตกต่ำลงได้ ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิไทยควรเตรียมกลยุทธ์ป้องกัน และต่อสู้กับข้าว JAZZMAN เพื่อรักษาตลาดข้าวไทยในสหรัฐ" นางสมรรัตน์ กล่าว
ด้าน นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงว่าข้าวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐ มีปริมาณส่งออกเฉลี่ยปีละ 4 แสนตัน แต่กว่าข้าวแต่ละชนิดจะเป็นที่ยอมรับจากตลาด ต้องใช้เวลาหลายปี ต้องยอมรับว่าข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้าพรีเมียมที่ตลาดยอมรับมานานและมีคุณค่าทางตลาด แต่ต้องจับตามองว่ามีลักษณะทางกายภาพเหมือนหรือต่างจากข้าวหอมมะลิของไทยอย่างไร หากใกล้เคียงกันอาจต้องระวังว่าจะมีการนำมาผสมกับข้าวหอมมะลิไทยก่อนวางจำหน่าย หากไม่เหมือนกันก็ถือว่าเป็นคนละตลาด
"ต้องยอมรับว่าเรายังไม่รู้ว่าข้าวชนิดใหม่นี้ มีลักษณะทางกายภาพและคุณภาพหลังการหุงต้มเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะตลาดข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้าพรีเมียมที่มีจุดยืนในตลาดชัดเจน ขณะที่สินค้าใหม่ๆ หรือข้าวชนิดใหม่กว่าจะได้รับการยอมรับจากตลาดจะใช้เวลานาน เช่น ข้าวปทุมธานี เป็นต้น" นายชูเกียรติ กล่าว
 
 
 
 
ชาวนากาฬสินธุ์ผวาน้ำท่วมซ้ำซาก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2552 14:55 น.

 

 
 
 
 
 
กาฬสินธุ์ - อิทธิพลของฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ชาวนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก อยู่ในอาการหวาดผวา ต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในนาที่ยังไม่แก่เต็มที่ เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แม้ว่าจะได้ผลผลิตที่ลดต่ำก็ตาม
       
       นายทองหนัก ศรีคัดเค้า อายุ 49 ปี เลขที่ 176 หมู่ 5 ชาวนาบ้านธนบุรี ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าจากการที่ในช่วงนี้ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและติดต่อกันหลายวัน ที่จะทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยสาขาและแม่น้ำลำปาว เพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับที่อุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์และเตือนว่า ตลอดสัปดาห์นี้ยังจะมีฝนตกชุกหนาแน่น ที่จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และเอ่อท่วมฉับพลัน
       
       ทำให้ชาวนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหวาดผวาเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าน้ำจะท่วมพื้นที่แปลงนาได้รับความเสียหาย
 
 
 
 

 
 
 
 
 
 
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โครงการปลูกยางล้านไร่ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วประเทศ "ชาวนาโนนสัง" หนองบัวลำภูสุดช้ำ แฉโดน "รัฐบาลแม้ว" ต้มจนเปื่อย แถมกล้ายางพาราที่นำไปให้ก็ไร้คุณภาพ เผยเข้าร่วมโครงการปลูกยาง 14 ไร่แค่ปีเศษก็เจอดี ต้นยางออกดอกถึงร้อยละ 90 จึงตัดสินใจไถทิ้งหันมาปลูกข้าวตามเดิม ครวญเสียทั้งเงิน-เวลา-ความรู้สึก จี้ต่อมสำนึกภาครัฐหากจะส่งเสริมต้องจริงใจ ตั้งข้อสังเกตโครงการนี้ทุจริตหรือไม่

 
ไถทิ้ง "กล้ายางฉาว" แฉ "รัฐบาลแม้ว" ต้ม เสียทั้งเงิน-เวลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กันยายน 2552 11:24 น.

นายสมศักดิ์ ทองบุญมา พาไปดูต้นยางที่ปลูกมา 3 ปีต้นโตแค่นี้ สภาพต้นยางพาราจากโครงการยางพารา 1 ล้านไร่ ต้นเล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางไม่ถึง 3 นิ้ว
 
 
 
 
 
 


Lauren found her dream laptop. Find the PC that's right for you.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น