ครบ 1 เดือนปักหลักชุมนุมบนสันเขื่อน - สมัชชาคนจนเขื่อนหัวนา-ราษีไศล จัดงาน “ปฏิบัติการสิทธิคนทาม”

on วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
 
          ก่อนอื่นผมขอเรียนพี่น้องทุกๆท่านว่า ผมเองนั้นได้ติดตามเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องมาตลอดระยะเวลากว่า ๑๑๑ วันแล้ว ถึงวันนี้วันพุทธที่ ๒๘ ตุลาคว ๒๕๕๒
 
          ผมจำได้ว่าพี่น้องได้พบกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีครั้งแรก ท่านนายกก็ได้รับปาก/และได้มอบหมายให้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนับเรื่องไปดำเนินการ เรื่องก็เงียบหายไปถึง ๙๕ วัน จึงได้มีรองอธิบดีกรมชลฯ ลงไปพื้นที่เพื่อหาข้อมูล (ผมเริ่มสงสัยแล้วว่านี่มันอะไรกัน เรื่องคอขาดบาดตายอย่างนี้ท่านบอกว่าท่านได้ติดตามมาตลอดแต่ทำไม?ครับกว่าจะลงมาพบพี่น้องได้ถึงต้องรอเวลามาถึง ๙๕ วันครับ)
 
          ผมมาทราบในภายหลังว่า อ๋อ เพราะท่านายกจะลงมามอบเงินชดเชยค่าเสียโกศให้คุณยายไฮ ขันจะนทานี่เองครับ.
 
         และผมก็ได้นำเรื่องราวปัญหาความยากจนนี้ขึ้นสู่ระบบสื่อสากลพร้อมรายงานการเดินทางของท่านนายำมาตลอด แต่ทำไม?ครับท่านจึงได้แต่รับปากและครั้งสุดท้าย ยังเปนยๆด้วยว่า เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานแล้ว มีผู้เกี่ยวข้องมากมายจึงต้องใช้เวลาในการแก้ไข.
 
         ผมไม่เห็นด้วยเลยครับท่านนายกตรงนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นมานมนานแล้ว และผ่านมาถึง ๑๐ รัฐบาล ไม่เว้นรับาลที่มีพรรค ปขป.เป็นแกนนำแต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทั้งคนรุ่นเก่าเก็บและคนรุ่นใหม่และมีความรู้อย่างท่านนายกยกอภิสิทธิ์ ฯ ที่ทุกคนฝากความหวังไว้กับท่าน แต่ท่านยังจะต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาเก่าๆนี้อยู่อีกหรือครับ หรือว่าพรรคของท่านได้เป็นรัฐบาลจากอุบัติเหตุครับ จึงได้ไม่มีการเตรียมพร้อมในการแก้ปัญหาความยากจนให้คนอีสานบ้านผมเลยครับ คุณชวน หลีกภัย อดีนายกรัฐมนตรี ท่านก็ทราบเรื่องนี้ดี แล้วทำไม?ครับจึงไม่มีไครกล้าที่จะตัดสินใจแก้ปัญหาใหญ่ ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้แก้พี่น้องของผมเลยครับ ทำไม?ครับ ผมคิดว่า ถ้าท่านแก้ปัญหาตรงนี้ได้จะทำให้เกิดความสงบไปทั่วทั้งภาคอีส่นครับ และเสณษฐกิจโดยรวมก็จะดีขึ้นตามลำดับ เพราว่า คนส่วนใหย๋พออยู่พอกิน ตามแนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง ไงครับ.
 
               พี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคยจนบนเขื่อนราษีไศลครับ หรือท่านจะรออยู่อย่างนี้จนครบ ๑๙๓ วันเหมือนเช่น พธม. หรือครับ อย่าไปหวังอีกต่อไปเลยครับ ผมขออนุญาติแนะนำพ่อใหญ่แม่ใหญ่นะครับว่า ป้จจุบันเรามีสื่อที่น่าสนใจคือ สื่อ เอ.เอส.ที.วี. ที.วี.ของประชาชนไงครับ รายการ "เคาะข่าวริมโขง" ครับ ทำไท เราไม่ทำการติดต่อขอเข้าไปนำเสนอ ผลกระทบ จากเขื่อนต่างๆ พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบ และรัฐบาลจะได้สนใจไงครับ และรัฐะณณมนูญปี ๒๕๕๐ ก็เปิดให้เราทำได้ครับ กรุณาดำเนินการด้วยนะครับ หรือจะให้ผมช่วยติดต่อให้ผมก็ยินดีนะครับ.
 
                ด้วยจิตรคารวะ
 
     ประชุม สุริยามาศ. วย.๗๗๗
 
E 3 mail : msuriyamas@hotmail.com
 
Tel : 081 - 337 - 7255.

ครบ 1 เดือนปักหลักชุมนุมบนสันเขื่อน - สมัชชาคนจนเขื่อนหัวนา-ราษีไศล จัดงาน "ปฏิบัติการสิทธิคนทาม"

สมัชชาคนจนเขื่อนหัวนาและเขื่อนราษีไศลและเครือข่าย ร่วมจัดงานในวาระครบรอบ 1 เดือนปักหลักเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่สันเขื่อนราศีไศล พร้อมออกแถลงการณ์ "สิทธิของคนลุ่มน้ำมูนหัวนา – ราศีไศล สิทธิของชาวบ้านตามจารีตประเพณีต้องได้รับความเคารพ" เรียกร้องรัฐบาลแก้ไขผลกระทบจากเขื่อนให้ครบถ้วน
 
 

 
 
วันนี้ (10 ก.ค.) สมัชชาคนจน เขื่อนหัวนาและเขื่อนราษีไศล และเพื่อนพ้องพันธมิตรคนจนกว่าสองพันคน รวมกันจัดงานปฏิบัติการสิทธิคนทาม ในวาระครบรอบ 1 เดือน ที่มาปักหลักเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ สันเขื่อนราษีไศล โดยในงานได้มีการ แสดงวิถีชีวิตคนลุ่มน้ำมูน เปิดฐานเศรษฐกิจพึ่งตนเองหมู่บ้านคนจน ทั้งการเผาถ่าน ทอเสื่อ กก-ผือทาม จักสาน ทำน้ำยาล้างจาน เลี้ยงวัว และสหกรณ์คนทาม
 
โดยมีนายไพโรจน์ พลเพชร ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ และเลขาธิการสมาคมสิทธิเสรีภาพประชาชน (สสส.) ร่วมเปิดงานและบรรยายเรื่อง "สิทธิชุมชน-สิทธิชาวบ้าน"
 
บรรยากาศในงานเริ่มตั้งแต่เช้าชาวบ้านมารวมตัวกันหน้าเวที รับฟังการปราศรัยจากแกนนำและส่วนหนึ่งก็เตรียมแสดงฐานเศรษฐกิจชุมชน ขณะที่เพื่อนพ้องพันธมิตรก็ทยอยเดินทางเข้ามาร่วมงาน และได้ให้ความสนใจเรียนรู้ฐานเศรษฐกิจชุมชนอย่างคึกคัก
 
เวลา 10.00 น. นายไพโรจน์ พลเพชร กล่าวบรรยายเรื่อง "สิทธิชุมชน-สิทธิชาวบ้าน" ใจความหนึ่งกล่าวว่า ชะตากรรมและปัญหาที่คล้ายกับที่พ่อแม่พี่น้องชาวราษีไศลกำลังเผชิญมีอยู่ทั่วประเทศ เพราะในอดีตมีคนพยายามกำหนดชะตาชีวิตเราโดยบรรดาข้าราชการ นักการเมือง ทำให้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โครงการต่างๆ เช่นเขื่อนปากมูล เขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา ประชาชนอย่างเราไม่รู้อะไรเลย อยู่ๆก็เกิดปัญหาขึ้นกับเรา ซึ่งรัฐอ้างเสมอเรื่องประโยชน์ แต่เราต้องพลัดที่นา พลัดที่อยู่ จากการอยู่อย่างสุขสบายกลับต้องเจอความแร้นแค้นจากโครงการของรัฐ"
 
ประธาน กป.อพช. กล่าวต่อว่า "เรื่องขั้นพื้นฐานที่เราต้องรู้ เพราะเราเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่หน่วยงานของรัฐไม่เคยให้ข้อมูล ไม่เคยขอเราเลย ซึ่งต่อไปรัฐบาลจะตัดสินในเองมิได้ ต้องทวงถามเพราะเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเรา อย่างกรณีเขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนา โดยเฉพาะเขื่อนหัวนาที่ถ้าเราไม่ต่อสู้ เขื่อนหัวนาคงสร้างเสร็จไปแล้ว แล้วทำไมต้องมาชุมนุมก็เพราะว่าต้องแสดงให้รัฐบาลเห็นว่าเรามาเรียกร้องสิทธิ ให้รัฐบาลและสังคมทราบว่า พี่น้องราษีฯ-หัวนากำลังเดือดร้อน"
 
นายไพโรจน์ ทิ้งท้ายว่า "ขณะนี้กำลังมีการศึกษาถึงผลกระทบของทั้ง 2 เขื่อน ซึ่งถ้ามีการศึกษาแล้วพบว่าทั้ง 2 เขื่อนไม่มีประโยชน์จริงๆก็ยกเลิกได้ ซึ่งการต่อสู้ของเราจะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับหลายๆกลุ่ม ต่อไปรัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีการมาฟังเสียงประชาชนโดยตรงอย่างแท้จริง ต้องทบทวนเพื่อให้การทำงานของรัฐถูกต้องสมเหตุสมผล ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้พี่น้องก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่เราทำเพื่อคนทั้งประเทศ ผมถือว่านี่เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ การที่พี่น้องกำลังรักษาพื้นที่เกษตรและป่าทามไว้เท่ากับช่วยดูแลผืนแผ่นดินไทยไว้ เรากำลังรักษาความมั่นคงของอาหารทุกมื้อ หากเราไม่ได้มีที่ดินทำกินแล้ว เราคงหมดสิ้นชาติ"
 
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. สมัชชาคนจนและผู้เข้าร่วมงานรวมกลุ่มเดินไปที่สันเขื่อนราษีไศลนำผู้เข้าร่วมงานไปดูผลกระทบจากการสร้างเขื่อน ก่อนจะกลับมารวมตัวที่หน้าเวที ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีเวทีเสวนาเรื่อง สิทธิชุมชนกับอนาคตป่าทาม โดย อ.อรุณศักดิ์ โอชารส: ประชาคม จ.ศรีสะเกษ นายวิพัฒนาชัย พิมพ์หิน ประธาน กป.อพช.อีสาน และ นางกัญญา อ่อนศรี เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกสุรินทร์ โดยสรุปการเสวนา ป่าบุ่งป่าทามมีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งอยู่หากินที่ชาวบ้านได้พึ่งพิง แต่กำลังถูกคุกคามด้วยโครงการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ของรัฐบาล จึงมีข้อเสนอในการปกป้องป่าบุ่งป่าทามให้มีความยั่งยืนคือ ชาวบ้านต้องเชื่อมั่นในสิทธิของตนเองและยืนยันสิทธิของตนเองด้วยการออกมาแสดงตัวตนในการใช้สิทธินั้น รวมทั้งการรวมพลังเพื่อสร้างฐานอำนาจของชาวบ้านเอง ควรมีสร้างฐานอาหารของตนเองให้มีความมั่นคง เพื่อการพึ่งตนเอง นอกจากนี้ยังต้องสร้างเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง บนฐานแห่งความเป็นจริง โดยอาศัยช่องทางกฎหมายที่เอื้อต่อการสนับสนุนสิทธิชุมชนเช่น สภาองค์กรชุมชน สภาพัฒนาการเมือง และรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
 
จากนั้นในเวลาประมาณ 16.00 น. นายสมัย หงษ์คำ แกนนำชาวบ้านเขื่อนราษีไศล จึงได้มีการอ่านคำประกาศ สิทธิของคนลุ่มน้ำมูนหัวนา – ราษีไศล สิทธิของชาวบ้านตามจารีตประเพณีต้องได้รับความเคารพ
 
คำประกาศ
สิทธิของคนลุ่มน้ำมูนหัวนา - ราษีไศล
สิทธิของชาวบ้านตามจารีตประเพณีต้องได้รับความเคารพ
 
พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย บรรพบุรุษของเราได้พากันสร้างบ้านแปงเมืองอยู่กับป่าทามและแม่น้ำมูนแห่งนี้มาเป็นสองสามร้อยปี เพราะมีดินดี น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ กุ้ง หอย ปู ปลา บ่อึดบ่อยาก ทำนาทาม ทำนาหนอง ทำนาปี่นาแซง หาเห็ดหาหน่อไม้ได้กินตลอดปี เผาถ่าน เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เป็นเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง
 
บรรพบุรุษสอนให้เราเป็นคนดี อยู่ในศีลกินในธรรม อยู่ร่วมกันด้วยความสงบมีสันติสุข ยามยากก็ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน แม้มีน้อยก็แบ่งปันกันกิน เมื่อมีภัยมาก็สามัคคีร่วมแก้ร่วมต้านจนหมดทุกข์หมดโศก ยามสุขก็ม่วนชื่นนำกัน เล่นหมอลำ ฟ้อนรำวง
 
พวกเราทำมาหากินในป่าบุ่งป่าทามแห่งนี้โดยที่รัฐมิเคยออกเอกสารสิทธิใดๆ ให้ แต่พวกเรากันเองรู้และเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ไม่เคยละเมิดสิทธิในการทำกินของผู้อื่น แต่สิ่งนี้รัฐและคนภายนอกไม่เคยเข้าใจ
 
16 ปี มาแล้วที่โครงการโขง ชี มูล มาสร้างเขื่อนแล้วปล้นที่ดินทำกินของเราไปเฉยๆ โดยไม่คำนึงถึงสิทธิที่เรามีอย่างอย่างชอบธรรม ทั้งยังกระทำย่ำยีให้คนบ้านเราขัดแย้งทะเลาะกันเอง
 
วันนี้วิญญาณผีปู่ย่าตายายต้องร้องไห้ เพราะลูกหลานถูกเขากดขี่ย่ำยีทำลาย และยังแตกแยกกันเอง ไม่มีที่สิ้นสุด ผืนดินที่สมบูรณ์ ดินทามน้ำดีเป็นแสนๆ ไร่ ที่บรรพบุรุษได้พาบุกเบิกถากถางไว้ให้ จมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำ ใต้เขื่อนที่มีประโยชน์อันน้อยนิดไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป
 
เราลูกหลานลุ่มน้ำมูน ขอประกาศเจตนาต่อดวงวิญญาณปู่ย่าตายายว่า เราจะไม่ยอมให้ใครมาละเมิดสิทธิที่ปู่ย่าตายายมอบให้ไว้ให้อีกต่อไป เราจะต่อสู้จนสุดชีวิต
 
อำนาจรัฐนั้นเข้ามาทีหลัง และไม่ชอบธรรมที่จะมาปล้นทรัพยากรของเราไปอย่างหน้าด้าน เราจะไม่ยอมรับการใช้อำนาจรัฐที่ฉ้อฉลอีกต่อไป
 
เราจะแสดงออกด้วยจารีตประเพณีของเรา รวมตัวกันด้วยวัฒนธรรมแบบพี่น้อง เสี่ยวเกลอ กอดคอร่วมกันต่อสู้
 
เราจะเอาอาชีพและวิถีชีวิตของเรามาแสดงให้รัฐและสังคมโลกได้รู้จักภูมิปัญญา รู้จักศักดิ์ศรีของคนลุ่มน้ำมูน
 
16 ปี ของการกดขี่ เพียงพอแล้ว
 
เราขอประกาศให้รู้ว่า ป่าทามแห่งนี้เป็นของเรา ใครหน้าไหนจะมาละเมิดมิได้
 
รัฐบาลต้องแก้ผลกระทบทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากโครงการเขื่อนหัวนา เขื่อนราศีไศลให้ครบถ้วน
 
และต่อไปนี้ เราจะสร้างองค์กรที่เข้มแข็งเพื่อฟื้นฟูชีวิต ฟื้นฟูทรัพยากรของเรา
 
และจะต่อสู้กับการกดขี่เอาเปรียบ ทุกรูปแบบอย่างไม่เกรงกลัว
 
สมัชชาคนจน
ประกาศ ณ สันเขื่อนราษีไศล
วันที่ 10 กรกฎาคม 2552


New Windows 7: Find the right PC for you. Learn more.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น