เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลและเกษตรกร/ชาวนาอำเภอครบุรี,อำเภอเสิงสาง/พี่น้องผู้รักษ์ลำแซะที่นับถือ. ผมขออนุญาตินำของเก่ามาฉายใหม่ครับ ข้างล่างคือเว็บแสดงกราฟน้ำไหลลงเขื่อนขนาดใหญ่(เขื่อนที่เก็บกักน้ำได้เกิน ๑๐๐ ล้าน ลบ.ม.ขึ้นไป.) ซึ่งจะแสดงกราฟน้ำไหลลงเขื่อนที่เป็นปัจจุบันนะครับ(๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ ช้าไป ๓ วัน.) http://msuriyamas.blogspot.com/2009/09/blog-post_6738.html กราฟน้ำในเขื่อนลำตะคอง ณ.วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ จากมุมบนของกราฟ แสดงว่า มีปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง ๖๓% ของปริมาตรเก็บกักปกติ ๓๒๔ ล้าน ลบ.ม./หรือติดเป็นปริมาตร = ๐.๖๓x๓๒๔ = ๒๐๔.๑๒ ล้าน ลบ.ม.อัตราการใช้น้ำในการอุปโภค,บริโภค,การเกษตรกรรม,และพานิชย์ กรรม (ไม่รวมเขตอุตสาหกรรมสุระนารีซึ่งใช้น้ำบาดาล) รวมเฉลี่ยเดือนละ ๒๒.๕ ล้าน ลบ.ม. การแก้ปัญหาควรหาแนวทางในการผันน้ำจากน้ำตกเหวนรกมาเดิมก็จะ มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นอีกถึงปีละ ๑๐๐ - ๑๒๐ ล้าน ลบ.ม.และ เขื่อนลำตะคองก็ยังมีความแข็งแรงและยังสามารถรองรับปริมาณน้ำที่ผันมา เพิ่มนี้ได้ ( ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุก ๔๔๕ ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำเก็บกักปกติ ๓๒๔ ล้าน ลบ.ม.) กราฟน้ำในเขื่อนลำแซะ ณ.วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒จากมุมบนของกราฟ แสดงว่า มีปริมาณน้ำในเขื่อน ๘๐%ของปริมาตรน้ำเก็บกักปกติ ๒๗๕ ล้าน ลบ.ม./หรือ = ๐.๘๐x๒๗๕ = ๒๒๐ ล้าน ลบ.ม. หากมองอย่างผิวเผินก็จะ เห็นว่า เขื่อนลำแซะมีปริมาณน้ำใช้สอยมากกว่าเขื่อนลำตะคองคือมากกว่าถึง = ๒๒๐ - ๒๐๔.๑๒ = ๑๕.๘๘ ล้าน ลบ.ม.แต่ถ้าเราหันกลับมาดูอัตราการ ใช้น้ำ/เดือน คือ ๒๑.๕ ล้าน ลบ.ม./เดือน ก็จะพบว่าปริมาณน้ำจะไม่พอใช้ อย่างแน่นอนครับ เพราะอัตราการใช้น้ำของเขื่อนลำแซะนี้ ใช้ไปในการ อุปโภค,บริโภค,การพานิชย์กรรม,และการเกษตรกรรมเท่านั้น ยังมิได้รวมน้ำบริโภคในต้วเมืองนครราชสีมา และเขตอุตสาหกรรมสุระนารีซึ่ง มีแผนที่จะนำไปใช้อีกด้วยครับ. ถามว่า เมื่ออัตราการใช้น้ำ/เดือนใกล้เคียงกันแล้วทำไม? จึงจะ เกิดศึกแย่งน้ำกัน? ผมมองอย่างนี้ครับ (เพราะไม่มีตัวเลขของการใช้น้ำใรตัวเมือง นครราชสีมา) ผมประมาณเอาว่า ครึ่งต่อครึ่งของอัตราการใช้น้ำ/เดือนนำมา ใช้ผลิตเป็นน้ำปีปาครับ/หรือ ประมาณ ๑๑.๒๕ ล้าน ลบ.ม./เดือน ส่วนน้ำ เพื่อการเกษตรกรรมในพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมานั้นจะมีน้ำเพื่อ การเกษตรกรรม จากเขื่อนต่างๆดังนี้ คือ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนมูลบน เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ และเขื่อนลำปลายมาศเป็นต้น. http://msuriyamas.blogspot.com/2009_08_01_archive.html ตามที่ผมได้นำเสนอไปแล้วนั้น ผมขอนำข้อความที่ผมได้โพสท์ลงในเว็บไซด์ผู้จัดการเมื่อประมาณ ปี ๒๕๔๘ ซึ่งเกิด ศึกแย่งน้ำกันระหว่าง บริษัทขายน้ำเอกชนกับกรมที่มีหน้าที่ดูแลน้ำ และพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาในภาคตะวันออก. อนึ่งศึกแย่งน้ำนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ในพื้นที่อำเภอเสิงสาง และอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมาครับ ระหว่าง การประปาโคราช(หรือบริษัทขายน้ำ)กรมที่ดูแลเขื่อน ลำแซะ และพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาในพื้นที่ของทั้ง ๒ อำเภอดังกล่าว ทั้งนี้เพราะ ปริมาณน้ำในเขื่อน ลำแซะนั้นแม้จะใช้สำหรับการเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่พอใช้อยู่แล้ว ยังจะมาถูกแย่งไปผลิตน้ำประปาให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา และเขตอุตสาหกรรม สุระนารี อีกด้วยครับ เหตุการณ์จะเหมือนที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกเมื่อปี ๒๕๔๘ และเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอีกที่อำเภอเสิงสาง อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมาในปีที่การก่อสร้างโรงกรองน้ำแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสน็จประมาณปี ๒๕๕๔ ครับ พี่น้องคอยดูนะครับ ผมยังไม่เห็นมีไคร?สนใจแก้ไข/หรือทำการป้องกันเลยครับ.ลองอ่านแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำในพืนที่ภาคตะวันออกดูนะครับ. >Mr. Suriyamas, > >I read your idea about water crisis solution, posted on www.manager.co.th ><http://www.manager.co.th/> and would like to know more in details. > >การแก้ปัญหาภัยแล้ง ของจังหวัดทางภาคตะวันออกชายฝั่งทะเล จาก ชลบุรี พัทยา >ระยอง โดยเฉพาะที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม >ต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมาก/ปี ซึ่งจากนี้ไปจะเกิดภัยแล้งถี่ขึ้น >ดังจะเห็นได้จากปริมาณน้ำที่เก็บกักได้ในแต่ละปีค่อยๆลดลงตามลำดับ เช่น ปี >2547 อ่างและเขื่อนต่างๆในภาคตะวันออกเก็บน้ำได้เพียง.- >1.) อ่างบางพระ ปกติเก็บกักได้ 110ปี2547เก็บกักได้ >48ปัจจุบัน23ก.ค.2548เก็บกักได้เพียง 17 หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม. >2.) >อ่างหนองปลาไหล.ปกติเก็บกักได้164ปี2547เก็บกักได้94ปัจจุบัน23ก.ค.เก็บกักได้เพียง16 >หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม. >3.) เขื่อนคลองสียัดปกติเก็บกักได้325ปี2547เก็บกักได้142ปัจจุบันถึง 23 ก.ค. >2548เก็บกักได้เพียง40 หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม >4.) รวมปกติเก็บกักได้599ปี2547รวมเก็บกักได้284 ปัจจุบันรวมเก็บกักได้เพียง >73 หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม.หรือเท่ากับ 12%ของความสามารถอ่างเก็บกักได้ปกติ >สถาณการณ์น้ำในภาคตะวันออกเข้าขั้นวิกฤตแล้วครับ.แหล่งน้ำที่จะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้คือแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำหริ >"เขื่อนคลองบ้านท่าด่านครับ" ซึ่งเพิ่งเริ่มเก็บกักน้ำได้ในปี 2548นี้ครับ >ปริมาณเก็บกักปกติ 224 ล้าน ลบ.ม. ปี 2547 ยังไม่มีการบันทึกข้อมูล >ปัจจุบันถึง 23 ก.ค. 2548 เก็บกักได้แล้ว 39 ล้าน >ลบ.ม.เพราะฉะนั้นแหล่งน้ำหลัก" ต้อง"สร้างโรงกรองน้ำที่ >บริเวณเขื่อนคลองบ้านท่าด่าน จังหวัดนครนายก แล้วส่งน้ำไปแจกจ่ายให้ 3 >จังหวัดภาคตะวันออก การประปาต่างๆจะเป็นเพียงสถานีจ่ายน้ำเท่านั้น >โครงการยักแค่ไหนก็ต้องทำครับ >เพราะว่าการแก้ปัญหาในปัจจุบันเป็นการแก้เพียงชั่วคราวเท่านั้น >เช่นการผันน้ำจากบริเวณใกล้เคียงมาใช้ก็เกิดปัญหาแล้ว >เพราะเจ้าของพี้นที่เขาก็ขาดแคลนน้ำ >การผันน้ำจากแม่น้ำบางประกงก็มีปัญหาการปิดเขื่อนทำให้ตลิ่งท้ายน้ำพังทลายลง >และน้ำเค็มจะทลักเข้าไปในเขตเรือกสวนไร่นาของประชาชน >และการเจาะน้ำบาดาลปีนี้พอมีน้ำ แต่ปีหน้าน้ำจะน้อยลงครับ.ระยะทางประมาณ 140 >กม พร้อมโรงกรองน่าจะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จภายใน 30 เดือน >โดยในปีนี้จะได้น้ำฝน >และรีบขอพระราชทานฝนหลวงในช่วงหน้าฝนที่บรรยากาศมีความชื้นมากนี้ทำฝนเทียมเพื่อให้ได้น้ำดิบมาประทังไปก่อน >รวมกับน้ำฝนน่าจะพอถูไถไปได้ถึงปลายฝนหน้าครับ >และใช้วิธีเดิมคือขอพระราชทานฝนหลวงอีกรอบก้จะสามารถยืดอายุไปได้จนโครงการก่อสร้างโรงกรองใหม่ที่เขื่อนคลองบ้านท่าด่านแล้วเสร็จ >(หมายเหตู. ถ้าไม่รีบดำเนินการ ท่าน รัฐมนตรี นั่นแหละจะเสร็จครับ.) >อนึ่งที่ต้องก่อสร้างโรงกรองที่เขื่อนคลองบ้านท่าด่านก็เพราะว่า >ระดับเก็บกักน้ำสูงสุดของเขื่อนคลองบ้านท่าด่านจะอยู่ที่ประมาณ + 120 M.S.L. >ถังจ่ายก็จะไม่ตอ้งก่อสร้างสูง หรือต้องใช้แรงดัน. จะสามารถจ่ายน้ำให้ ทั้ง 3 >จังหวัดในภาคตะวันออกได้โดยใช้ระบบแรงโน้มถ่วงครับ. หมายเหตูระบบ >บริษัทจัดการน้ำบริโภคล้มเหลวหากรัฐบาลไม่แก้ไขจะเจอปัญหาซ้ำซาก >การประปาส่วนภูมิภาคต้องทำเอง >ข้าราชการที่ดียังมีอีกมากครับผมเชื่อมั่นพวกเขาจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ.กราบเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยองฯ >ระดับเก็บกักน้ำปกติของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในบริเวณภาคตะวันออกจะอยู่ที่ประมาณ >40, +50, +67. M.S.L. เท่านั้น >หากต้องการน้ำดิบมาเติมอางเก็ยน้ำต่างๆก็จะสามารถใช้ท่อล่งน้ำร่วมกันได้ถ้าจำเป็นครับ.ต้องกล้านำเสนอท่าน >รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ >หรือท่านนายกก็ได้ผมเชื่อครับว่าท่านจะรับฟัง. >และที่สำคัญปัญหาการแย่งน้ำก็จะไม่มีครับ
พี่น้องครับผมขออนุญาติทำนายเอาไว้เลยนะครับ ญ วันนี้วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๒ ในอีกไม่ถึง ๒ ปีข้างหน้าจะเกิดศึกแย่งน้ำขึ้นอย่างแนนอน และรัฐบาลจะใช้วิธีการแก้ไขแบบการแก้ผ้าเอาหน้ารอดครับคือ จะกลับไปใช้น้ำดิบจากเขื่อน ลำตะคองตามเดิม (และยอมสูญเสียเงินงบประมาณค่าก้อสร้างโรงกรองแห่งไหม่ ที่ ตำบลด่านเกวียน ไปถึง ๓,๐๐๐ ล้าน บาทเศษ ) แต่ปัญหาก็จะไม่จบครับเพราะปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน ลำตะคองมีไม่พอเพียงและยังถูกสนามกล๊อฟแย่งไปใช้อีกด้วยครับ ผมเคนเตือนความจำแก่ผู้ที่รับผิดชอบโดยน้อมนำโครงการพระราชดำริ คืด โครงการก่อสร้างฝายกั้นน้ำที่ น้ำตกเหวนรกและขุดอุโทงผันน้ำมาลง ต้นน้ำลำตะคองคือที่ น้ำตกเหวสุวัจครับ เมื่อครั้งโคราชแล้งหนักเมื่อประมาณปลายปี ๒๕๔๘ เคยมีรัฐมนตรีคิดที่จะผันน้ำมาเติมให้เขื่อน ลำตะคองแต่คิดจะสูบน้ำขึ้ยเขาจากโครงการโขง ชีมูล ไม่เว้นแม้ ๒ - ๓ รัฐบาลที่ผ่านมาครับ. เวลาผ่านไปร่วมเกือบจะ ๕ ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไร?เกิดขึ้นเลยครับ.
ด้วยจิตรคารวะ
ปนะชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
ร้อนตัว! มรดกบาปประปาฉาว 3 พันล. เด็ก "สุวัจน์" เปิดเวทีอ้างผวาขาดน้ำ - ลั่นล่าชื่อกดดันศาล |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 26 ตุลาคม 2552 18:54 น. |
|
Windows 7: Simplify your PC. Learn more.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น