ศาลสั่งเบรคโครงการประปา3พันล้านโคราช

on วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

 เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนา และชาวเมืองนครราชสีมาที่นับถือ.

 
          ผมเพิ่งค้นเจอคำสั่งศาลปกครองสูงสุดครับ เชิญอ่านได้เลยครับ
 
และอย่างไปตกใจกับคำขู่จากทุนนะครับ เขื่อนลำตะคองยังให้บริการน้ำดิบได้
 
อย่างพอเพียงและอีกยาวนานครับ. ผมได้ทำนายไว้นานแล้วไงครับว่าอีกไม่
 
นานการประปาโคราชจะต้องหันกลับมาใช้น้ำดิบจากเขื่อนลำตะคองในการผลิต
 
น้ำประปาครับ ยังไม่ทันไร? ก็เป็นจริงแล้วนะครับ
 
          พี่น้องชาวเมืองนครราชสีมาครับ ได้โปรดกรุณาช่วยกันปกป้องรัฐ
 
ธรรมนูญ ปี ๒๕๕๐ ด้วยนะครับ และก็อย่างลืมช่วยกันรักษ์ลำตะคองด้วยนะ
 
ครับ.
 
                     ด้วยจิตรคารวะ
 
             ประชุม สุริยามาศ. วย.๗๗๗
 
 
 

ศาลสั่งเบรคโครงการประปา3พันล้านโคราช

Bookmark and Share
    คมชัดลึก :ศาลปกครองสูงสุดรับฟ้องโครงการก่อสร้างระบบประปา มูลค่า 3 พันล้านบาท พร้อมสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำพิพากษา "ชิโนไทย"อึ้งหลังโครงการก่อสร้างไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซนต์ ชลประทานชี้หากนำน้ำจากเขื่อนลำแซะ ปีละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร มาผลิตน้ำประปาบริการผู้ใช้น้ำในตัวเมืองโคราช เกษตรกร 3 อำเภอไม่มีน้ำใช้หน้าแล้ง
    แผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยกระทรวงพาณิชย์, ม. ศรีปทุม, Google เพื่อธุรกิจไทย ก้าวไกลสู่ตลาดโลกwww.Google.co.th/sme2009

     (19 ต.ค.)นายธีรพล รัตนประยูร ประธานกลุ่มรักษ์ลำแซะ เปิดเผยว่า หลังจากที่กลุ่ม โดยสมาชิก 91 คนได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด  ต่อการพิจาณาของศาลปกครองนครราชสีมา คดีหมายเลขดำที่ 174/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 287/2552 เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครองกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง กรณีการคัดค้านโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค -บริโภค เทศบาลนคร นครราชสีมา  โดยก่อสร้างระบบประปาที่ต้องใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำแซะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยรัฐบาลอุดหนุน  งบประมาณ 2,207.80 ล้านบาท  และเทศบาลนครนครราชสีมา สมทบ 946.20 ล้านบาท รวม 3,154 ล้านบาท

     โดย เทศบาลนคร นครราชสีมา เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 กรมชลประทาน เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 โดยรายละเอียดการของโครงการขนาดใหญ่ดังกล่าวไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ ตารมรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 และจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ใช้น้ำเพื่อการเกษตรจากเขื่อนลำแซะ หากมีการนำน้ำจากเขื่อนลำแซะมาใช้ในการผลิตประปาตามโครงการเพื่อบริการผู้ใช้น้ำประปาในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งรับฟ้องแล้ว และดำเนินการตามคำขอให้ระงับการก่อสร้างระบบประปานี้ไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

     นายธีรพล กล่าวว่า เมื่อศาลปกครองสูงสุดได้ดำเนินการคำขอให้ระงับการก่อสร้างไว้ชั่วคราวแล้ว การก่อสร้างระบบประปา ก็ต้องระงับไว้ก่อน แต่เทศบาลก็ยังมีเวลาในการยื่นคัดค้านได้ภายใน 30 วัน และก่อนหน้านี้ ตนและพวกได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมา ในกรณีเดียวกัน แต่ในขณะนั้นข้อมูลเรื่องปริมาณน้ำในเขื่อนลำแซะ ยังไม่ชัดเจน ล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้ขอให้ตัวแทนกรมชลประทานไปให้ข้อมูลเรื่องปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีเอกสารเดิมช่วงที่ยังก่อสร้างเขื่อนลำแซะไม่เสร็จ ที่กรมโยธาธิการ เคยทำเรื่องถึงอธิบดีกรมชลประทาน ว่าจะขอใช้น้ำจากเขื่อนลำแซะ ปีละ 30-40 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่กรมชลประทานได้แจ้งกลับว่า หากมีการใช้น้ำในปริมาณดังกล่าวก็จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ในเขต อ.ครบุรี อ.โชคชัย และ อ.ปักธงชัย จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชในฤดูแล้งได้เนื่องจากน้ำไม่พอ

     ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามกับคณะผู้บริหารเทศบาลนคร นครราชสีมา ถึงการดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด  แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครให้รายละเอียดได้ โดยนายอารมณ์ ทางตะคุ ปลัดเทศบาล ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศแถบยุโรป ขณะที่นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น

     ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการก่อสร้างระบบประปา มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ในเขตบ้านใหม่หนองบอน หมู่ 6 ต.ด่านเกวียน และจุดที่วางท่อน้ำประปาในเขตอ.เมืองนครราชสีมา ทั้งสองแห่งพบยังคงมีการปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติ

     นายสายัน นุพันธ์ ผู้รับจ้าง บริษัท ชิโนไทย จำกัด หน. ผจก.โครงการ ฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจ โดยอ้างว่า เพิ่งรับทราบจากผู้สื่อข่าวว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ระงับโครงการฯ และชี้แจงว่าขณะนี้โครงการ ฯ ที่เป็นสัญญาจ้างเลขที่ 3/2550 ลงวันที่ 13 สค.2550 เริ่มสัญญา 18 กย.50 สิ้นสุดสัญญา 1 พย.2553 รวมระยะเวลาดำเนินการ 1,140 วัน โดยเป็นการดำเนินการโดย กิจการร่วมค้า เอส เอ ( บริษัท ชิโน-ไทย และ บริษัท อาคาวาไทย จำกัด ) ที่ปรึกษา และควบคุมงานก่อสร้าง โดย บริษัท ไทย เอ็ม เอ็ม จำกัด ล่าสุดได้รุดหน้าไปกว่า 70 % พร้อมกับวัสดุ อุปกรณ์ ก็มีการติดต่อซื้อล่วงหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยมีการจอง และจัดซื้อไปแล้วกว่า 90 % รวมมูลค่าทั้งหมดในขณะนี้กว่า 2,600 ล้านบาท ส่วนการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ เพราะไม่ทราบคำสั่งศาล ฯ จริง ๆ จึงขอติดต่อ ปรึกษา กับผู้บริหารก่อน สำหรับการฟ้องร้องชดใช้ค่าเสียหาย ก็เป็นหน้าที่ของที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมายที่จะต้องดำเนินการ


    Windows 7: It works the way you want. Learn more.

    0 ความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น