เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาและสมัชชาคนจนบนเขื่อนราษีไศลที่นับถือ.
ผมได้นำข่าวเวทีถกปัญหา "เขื่อนปากมูน" ย้ำเขื่อนทำชุมชนแตกสลาย-วัฒนธรรมคนลุ่มน้ำพังยับ
ผมจึงได้ย้อนนำ จดหมายเปิดผนึกถึงคุณอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และแนวคิดในการแก้ปัญหา
เขื่อนปากมูนมาให้ได้อ่านกันอีกครั้ง พร้อมกราฟน้ำพไหลลงเขื่อน ลำปาว ด้วยครับ.
ด้วยจิตรคารวะ
ประชุม สุริยามาศ. วย.๗๗๗
FW: จดหมายเปิดผนึกถึง คุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี.
From: msuriyamas@hotmail.com
To: msuriyamas@hotmail.com
Subject: จดหมายเปิดผนึกถึง คุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี.
Date: Tue, 23 Jun 2009 18:08:20 -0800
เรียนพี่น้องเกษตรกร/ชาวนา ที่เคารพ
ผมขออนุญาติพี่น้อง เพื่อส่งจดหมายเปิดผนึกถึงคุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
พร้อมได้แนบข้อมูลจากบทความ ภาพ พร้อมคำวิเคราะห์อันน้อยนิด ในการสนับสนุน ผลงานการวิจับ
เพื่อการตัดสินใจในการเปิดเขื่อนปากมูล เป็นเวลา ๘ เดือน และปิดเขื่อนปากมูลเป็นเวลา ๔ เดือน ซึ่ง
มีข้อมูลทางลึกสนับสนุน หากได้รับการพิจารณา ผมคิดว่า ปัญหาเขื่อนปากมูลอันลือลั่น และได้สร้าง
ความเสียหายให้แก่พี่น้องเกษตรกร/ชาวนาที่อาศัยอยู่บนรืมฝั่งลุ่มน้ำมูลอย่างมหาศาล จะได้สื้นสุดลง
เสียที และผมยังหวังไปอีกว่า ปัญหาเขื่อน ราษีไศล เขื่อนหัวนา และเขื่อน(ฝาย) ต่างๆในโครงการ
โขง ชี.มูล อันลือลั่น ก็จะพลอยได้รับการแก้ไขปัญหาไปด้วย.
ไนโอกาศต่อไปผมก็จะได้นำเสนอเป็นจดหมายเปิดผนึกในรูปแบบจากประชาชน
ถึงท่านนายกอีกต่อไป ในเรื่องผลกระทบจากเขื่อน ลำปาว เขื่อน ลำพระเพิลง ซึ่งไม่สามารถเก็บ
กักน้ำปริมาณมหาศาลได้อีกต่อไปแล้ว ดังเป็นที่ทราบกันดีว่า เขื่อนทั้งสอง ได้ปล่อยน้ำทิ้งในแต่ละปีเป็น
ปริมาณมหาศาล ให้ไหลลงมาท่วมไร่นาของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใต้เขื่อน และเลย
ไปท่วมถึงพื้นที่ราบอันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำอันอุดมสมบูรณ์ในอดีตอีกด้วย เช่น พื้นที่ ๙ ตำบลใน ๑๒ ตำบล
ของอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ และ อำเภอ
ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ดมานานแสนนานแล้ว และไม่มีไครเข้าไปแก้ไขปัญหาหรือว่าไม่มีไครรู้เหตุแห่ง
ปัญหา/หรือปกปิดปัญหาเอาไว้กันแน่ดังที่เป็นข่าวว่า เมื่อเดือนตุลาคม ปี ๒๕๔๘ มี ครม.สัญจรไปที่
โรงแรมริมปาว เพราะทนข้อเรียกร้องและความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนาไม่ไหว.และได้
อนุมัติเงินงบประมาณถึง ๓,๐๐๐ ล้านบาท แต่มีข่าวบางกระแสบอกว่า อนุมัติเงินงบประมาณถึง
๓,๕๐๐ ล้านบาท เพื่องเพื่อต้องการ สยบการเรียกร้องลงเท่าน้น คือจะให้เรสริมสันเขื่อน ลำปาวขึ้นอีก
๒.๐๐ เมตร (ซึ่งไม่จริง)เพื่อให้เขื่อน ลำปาวเก็บกักน้ำได้เพิ่มมากขึ้นอีกเพียง ๕๐๐ ล้าน ลบ.ม.
จากปรืมาตรเก็บกักปรกติ (โปรดส้งเกตูคำว่าปริมาตรเก็บกักปรกติ) ที่ ๑,๔๓๐ ล้าน ลบ.ม.เป็น
๑,๙๓๐ ล้าน ลบ.ม. ทั้งๆที่ในอดีตเขื่อน ลำปาวสามารถเก็บกักน้ำได้เป็นจำนวนถึง ๒๕๑๐ ล้าน
ลบ.ม.ครับ และได้ปรับลงครั้งแรกเหลือ ๒,๔๕๐ ล้าน ลบ.ม. จึงได้ม้คำถามตามมาว่า
"แล้วทำไม?...ทำไม?... จึงต้องใช้เงินงบประมาณสูงถึง ๓,๐๐๐ - ๓,๕๐๐ล้านบาท เพื่อนำมาใช้
ก่อสร้าง เสริมสันเขื่อนอีกเล่า"
ความคิดเห็นของผม เงินจำนวนนี้ น่าที่จะนำไปก่อสร้างเขื่อน ขนาดเก็บกักน้ำได้ซัก
๒๕๐ - ๓๐๐ ล้าน ลบ.ม. จำนวน ๓ แห่ง ในพื้นที่เหนือเขื่อน ลำปาวขึ้นไปจะดีกว่า จะเป็นการกระจาย
น้ำให้ถึงไร่นาของเกษตรกร/ชาวนาได้ดีขึ้นมากกว่าครับและยังจะสามารถเก็บกักน้ำไว้ได้จริงอีกด้วย.
จากข้อมูลข้างต้นนี้ ผมจึงมีความเห็นว่า ภาคอีสานมิได้ขาดน้ำเลยครับ แล้วเรา
จะผันน้ำเข้ามาอีกทำไม? และน้ำที่จะผันเข้ามาจะนำไปเก็บกักไว้ที่ไหน? ครับ (เขื่อนต่างๆในอีสานเหนือ
ได้เสื่อมสภาพลงมากแล้วครับ) แต่ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนในแต่ละปียังเปลี่ยนแปลงไปไมกเลยครับ,
จึงขอเพิ่มจากคุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อีกข้อคือ ขอให้ท่านพิจจารณา
โครงการผันน้ำเข้าอีสานเหนือ สู่อีสานใต้ ให้รอบคอบด้วยครับ ผมไม่อยากให้ท่านตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ
จากข้อมูลเพียงด้านเดียงวโดยเฉพาะข้อมูลจากทุน (จากนักการเมืองรอบข้างที่มาจากทุน) ครับ ดังเช่นการ
ตัดสินใจปิดเขื่อนปากมูลของอดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่านในอดีต ที่ขาดความรับผิดชอบ จนทำให้ปัญหา
เขื่อนปากมูลยังคงอยู่ และยังสร้างความเสียหายจนตราบเท่าทุกวันนี้.
จึงกราบเรียนมาเพื่อให้พี่น้องเกษตรกร/ชาวนาได้ทราบกันครับ.
ขอแสดงความนับถือ.
ประชุม สุริยามาศ.วย.๗๗๗
FW: ภาพกร๊ฟท์น้ำไหลลงเขื่อน ลำปาว.และบทความ ยุทธการหว่านวันแม่ - เกี่ยว วันพ่อ.
on วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 18, 2009
กร๊าฟน้ำในเขื่อน ลำปาวครับ./ประชุม.
Subject: ภาพกร๊ฟท์น้ำไหลลงเขื่อน ลำปาว.
Date: Sun, 10 May 2009 06:37:09 -0800
เรียนคุณอัญชลี ฯ
ภาพ ๑๔๘ ผมทำไว้เพื่อแนะนำเกษตรกร/ชาวนา ที่อยู่ในพื้นที่
น้ำท่วมเป็นระยะเวลาไม่ยาวนานนักครับ
โดยใช้ยุทธการ หว่านวันแม่ - เกี่ยววันพ่อ แต่เนื่องจาก หน้าแล้ว
และฝนทิ้งช่วงในแต่ละปีไม่ตรงกัน และเปลี่ยนแปลงไปมาก
จึงใช้วิธีดูจากกร๊าฟท์น้ำไหลลงเขื่อนครับและหาช่วงที่เหมาะสมดังกล่าว.
ภาพ ๑๔๙ ผมใช้แนบ บทความ ยุทธการหว่านวันแม่ - เกี่ยววันพ่อครับ.
จากทั้งสองภาพจะพบว่า ปี ๒๕๔๘ น้ำจะท่วมมาก
หากเขื่อนไม่เปิดน้ำทิ้ง และสันเขื่อนมีความแข็งแรงและ
ปลอดภัย จะสามารถเก็บกักน้ไว้ได้ ถึง ประมาณ ๒,๒๓๐ ล้าน ลบ.ม.
ก็จะทำให้มีปริมาณน้ำต้นปี ๒๕๔๙ ถึงประมาณ
๑,๘๕๐ - ๑.๙๐๐ ล้าน ลบ.ม.
ปริมาณน้ำมหาศาลนี้ก็จะสามารถปล่อยให้เกษตรกร/ชาวนา
ทำนาปรังได้ทุกปีครับ.
กรุณานำเรียท่านนายกด้วยนะครับ./ประชุม.
ผู้เขียนบทความเชิงวิเคราะห์นี้ เพื่อที่จะให้ผู้ที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้ง ได้กรุณาใช้วิจารณ
ยาญในการพิจจารณา เพื่อให้เกิดประโยชน์แก้พี่น้องเกษตรกร/ชาวนาเป็นหลัก ถ้าพบว่ามีข้อมูลที่ไม่เป็นจริง/หรือไม่ถูก
ต้อง หรือมิได้บอกกล่าว ขอได้โปรดชี้แนะด้วยนะครับ.
ด้วยจิตรคารวะ
ประชุม สุริยามาศ วย.๗๗๗
From: msuriyamas@hotmail.com
To: sasukmsu@gmail.com
Subject: FW: แนวคิดในการแก้ปัญหาน้ำ(ปัญหาความยากจนของเกษตรกร/ชาวนา ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนั่นเอง.)
Date: Wed, 17 Jun 2009 08:54:58 -0800
เรียนคุณบอน ฯ
กรุณาใช้ข้อมูลน้ำปี ๒๕๔๘ จากภาพ ๓๕๐ ครับ และข้อมูลร้ำปี ๒๕๔๙ จากภาพ ๓๔๙ ครับ
และค่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง เป็น + ๑๖๐ ม. (ร.ท.ก.) ครับ.
เราจะพบว่า ปริมาณน้ำต้นปี (มกราคม ๒๕๔๘) ปริมาตรน้ำในเขื่อนเหลือรวม ๑,๓๑๙ ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น ๒๒%
ของปรืมาตรเก็บกักสูงสุดรวม ๕,๘๖๗ ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำต้นปี (มกราคม ๒๕๔๙) ปริมาตรน้ำในเขื่อนเหลือรวม
๒,๐๓๐ ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น ๓๕% ของปริมาตรเก็บกักสูงสุดรวม. ๕,๘๖๗ ล้าน ลบ.ม.
สำหรับคำพูดที่ว่า อีสาณมิได้ขาดน้ำเลย นั้น ให้กลับไปดูที่ กร๊าฟน้ำไหลลงเขื่อนต่างๆ จะพบว่าช่วงทีฝนกำลังตก
ชุกนั้น เขื่อนได้เปิดน้ำทิ้งเป็นปริมาณมาก หากเก็บกักเอาไว้ ปริมาตรน้ำในเขื่อน ต้นปี (มกราคม) จะทีปริมาณมากและใกล้
เคียงกับปริมาตรเก็บกักสูงสุดเกือบจะทุกปี.
นับถือ.
ประชุม สุริยามาศ.
From: msuriyamas@hotmail.com
To: sasukmsu@gmail.com
Subject: RE: แนวคิดในการแก้ปัญหาน้ำ(ปัญหาความยากจนของเกษตรกร/ชาวนา ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนั่นเอง.)
Date: Wed, 17 Jun 2009 02:07:10 -0800
>เรียนคุณบอนที่นับถือ.
> >ก้อนอื่นผมต้องขอบคุณมากที่คุณบอน ฯ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยผม ซึ่งก็จะเหมือนคุณบอนได้ช่วยพี่น้องเกษตรกร/ชาวนา
>นั่นเองครับ ผมเป็นวิศวกรโยธา ฯ แต่ได้เปลี่ยนมาค้นหาเหตุแห่งทุกข์ของพี่น้องเกษตรกร/ชาวนา โดยเฉพาะในพื้นที่
>ภาคอีสาณมานานแล้วครับ ที่สำคัญผมได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.ขอนแก่น เป็นเวลานานพอสมควร และได้ตระเวณไปทั่ว
>ภาคอีสาณครับ. จึงได้รับทราบถึงปัญหาน้ำท่วม และฝนแล้งได้เป็นอย่างดีครับ. โดยเฉพาะหลังการก้อสร้างเขื่อนปากมูล
>ที่อำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี. ซึ่งเป็นเขื่อนแรก ในโครงการ โขง. ชี.มูล. ทำให้พี่น้องที่อยู่อาศัยทำกินตลอดริมฝั่ง
>ทั้งสองของแม่น้ำมูล.
> >ผมจะนำเสนอความจริงว่า อีสาณมิได้ขาดน้ำเลยครับ ?และจะพยายามนำเสนอให้รัฐบาลต้องเปิดเขื่อน
>ปากมูลเป็นเวลา ๘ เดือน และปิดเขื่อนปากมูลเป็นเวลา ๔ เดือน จนกว่าจะไดhข้อยุติว่า จะเปิด หรือจะปิดเขื่อนปากมูล
>ตลอดไปกันแน่? ครับ. ผมได้ขอข้อมูลไปที่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อที่จะได้รู้ว่า ทางอาจารย์ คณะที่ทำการวิจัยนั้น
>ได้กำหนดช่วงเวลาเปิดเขื่อนเป็นเวลา ๘ เดือนนั้น เริ่มจากเดือนไหน? ถึงเดือนไหน? และช่วงปิดเขื่อน ๔ เดือนนั้นเริ่มปิด
>จากเดือนไหน? ถึง เดือนไหน? ถ้าเราสามารถหาข้อมูลให้ได้ว่าปลาขึ้นมาวางไข่ได้จริง และเขื่อนก็ยังสามารถผลิตกระ
>แสรไฟฟ้าได้ไม่ต่างอะไร?มากนัก กับการปิดเขื่อน ๘ เดือน และเปิดเขื่อนเพียง ๔ เดือน. ปัญหาของพี่น้องเกษตรกร/
>ชาวนา ก็จะได้รับการแก้ไข.
> > สำหรับความคิดเห็นของผมนั้น ผมคิดว่า ถ้าผลออกมาว่า เปิดเขื่อน ๘ เดือน และปิดเขื่อน ๔ เดือน ตามผลการวิจัย
>ของ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม คือปลา จะสามารถขึ้นมาวางไข่และสามารถเจริญเติบโต
>ได้ก็ตาม แต่ก็จะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบจากน้ำทะลักเข้าไปท่วมไร่นา ป่าบุ่งป่าทาม ซึ่งได้สร้างความสูญ
>เสียอย่างมหาศาลได้เลยครับ ทั้งนี้ก็เพราะข้อมูลการเก็บกักน้ำในเขื่อนต่างๆทั้งในพื้นที่อีส่ณเหนือ อีสาณกลาง และ
>อีสาณใต้ ได้ลดลงอย่างน่าใจหายครับ คือสามารถเก็บกักได้ไม่เกิน ๔๐% ของปริมาตรเก็บกักสูงสุดครับ ด้วยเหตุนี้
>ขเอนปากมูลกำลังเปิดประตูน้ำทั้ง ๘ บาน จากวันจันทร์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ เป็นเวลา ๔ เดือน ก็จะไปปิดเอาโน่น
>ครับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๒ ฝนก็จะหมดแล้วครับ ปัญหาปลาขึ้นมาวางไข่ได้ แต่โรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูลจะ
>ไม่มีน้ำมาผลิตกระแสรไฟฟ้าครับ. เพราะน้ำต้นปีก็จะเหลือไม่เกิน ๔๐% ของปริมาตรน้ำเก็บกักสูงสุด และยังต้องหัก
>ปริมาณน้ำคงเหลือกันอ่าง (Dead Stock) อีกต่างหากครับ ดังนั้นโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูลจะมีน้ำเพื่อใช้ผลิตกระ
>แสรไฟฟ้าได้ไม่เกิน ๒๕% ของกำลังการผลิตรวม/ปี (๒๘๐ ล้านหน่วย/ปี) เขื่อนปล่อยน้ำทิ้งช่วงหน้าฝนเฉลี่ยถึง
>๔,๐๐๐ - ๔,๕๐๐ ล้าน ลบ.ม.ครับ.ตรงนี้เองครับที่จะเป็นข้อมูลที่ยืนยันว่า ภาคอีสาณนั้น มิได้ขาดน้ำเลยครับ.?
>แล้วเราจะไปผันน้ำเข้ามาอีกทำไม?ครับ. เราควรปรับปรุงโครงการ โขง.ชี.มูล. โดยการลดระดับเก็บกักลงมา๔๐% ถึง
>๕๐% /หรือลดระดับเก็บกักน้ำในแม่น้ำมูล, แม่น้ำชี, และแม่น้ำปาวลง ๕.๕๐ - ๗.๕๐ เมตร ปัญหาทุกๆปัญหาก็จะ
>ได้รับการแก้ไขโดยอัตโนมัติครับ. เขื่อนใหญ่จำนวน ๕ เขื่อนที่วิกฤต (วิบัติ) ถึงกับต้องร้อและทำการก่อสร้างใหม่ก็ต้อง
>ทำครับ เพื่อที่จะทำให้เราสามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้นถึงปีละ ๔,๐๐๐ - ๔,๕๐๐ ล้าน ลบ.ม./ปี และปรับเปลี่ยนเป้า
>หมายการผลิตกระแสรไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูลเพิ้อการค้า เปลี่ยนมาเป็นการผลิตกระแสรไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
>เพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ. กระแสรไฟฟ้าที่หดหายไป ให้ไปใช้ เขื่อนจำนวน ๕ เขื่อนที่ทำการก้อสร้างใหม่ผลิตแทน
>เขื่อนลำปาว,เขื่อนน้ำอูน,เขื่อนลำตะคอง ,เขื่อนลำพระเพลิง, เขื่อนลำมูลบน,และเขื่อนลำแซะ. และเขื่อนที่แข็งแรงดีก็
>คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ, และเขื่อนขุนด่านปราการชล (เขื่อนคลองบ้านท่าด่าน)ครับ.
> > ขอขอบคุณมากๆเลยนะครับคุณบอน ณ. กาฬวินธุ์
ประชุม สุริยามาศ วย,๗๗๗.
เวทีถกปัญหา"เขื่อนปากมูล" ย้ำเขื่อนทำชุมชนแตกสลาย-วัฒนธรรมคนลุ่มน้ำพังยับ |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 9 ตุลาคม 2552 12:45 น. |
|
Hotmail: Free, trusted and rich email service. Get it now.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น